นายจอร์จ ปาปันเดรอู นายกรัฐมนตรีกรีซ ได้ปฏิเสธข่าวที่ว่ากรีซจะถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกยูโรโซนและอาจจะผิดนัดชำระหนี้ โดยนายปาปันเดรอูได้ให้คำมั่นสัญญาว่า จะดำเนินการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจเพื่อให้เศรษฐกิจกรีซกลับมามีเสถียรภาพและขยายตัวได้อีกครั้งภายในปี 2556
"หากกรีซถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกยูโรโซนจะส่งผลให้ยูโรโซนล่มสลาย และแน่นอนว่าเราจะไม่ปล่อยให้กรีซล่มสลาย เราจะไม่ปล่อยให้กรีซกลายเป็นปัญหาของยุโรป เราจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อปกป้องข้อตกลงซึ่งทำขึ้นเมื่อวันที่ 21 ก.ค.ว่าหนี้กรีซเป็นเรื่องที่สามารถจัดการได้" นายปาปันเดรอูกล่าวในระหว่างการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การแสดงความคิดเห็นของนายปาปันเดรอูมีขึ้นไม่นานก่อนที่นายอีแวนเจลอส เวนิเซลอส รองนายกรัฐมนตรีและรมช.คลังของกรีซจะประกาศมาตรการรัดเข็มขัดเพิ่มเติมเพื่อผลักดันให้รัฐบาลกรีซบรรลุเป้าหมายการลดยอดขาดดุลงบประมาณในปี 2554 และเพื่อแลกกับการรับความช่วยเหลือด้านการเงินจากต่างประเทศในปี 2555
มาตรการรัดเข็มขัดเพิ่มเติมฉบับใหม่นี้ ครอบคลุมถึงการจัดเก็บภาษีอสังหาริมทรัพย์ในวงเงิน 4 ยูโร (5.32 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อเมตร และงดจ่ายเงินเดือนเจ้าหน้าที่ทางการเมืองที่ได้รับเลือกตั้งทั้งหมด เป็นเวลา 1 เดือน โดยจะเริ่มตั้งแต่ประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรี ไปจนถึงรัฐมนตรี นายกเทศมนตรี และเลขาธิการของกระทรวงต่างๆ