สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (13 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเข้าซื้อสัญญาทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากวิกฤติหนี้ยุโรป นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าลงของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 16.8 ดอลลาร์ หรือ 0.9% แตะที่ 1,830.1 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 97.6 เซนต์ ปิดที่ 41.193 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 0.45 เซนต์ ปิดที่ 3.97 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 4.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,813.50 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 17.15 ดอลลาร์ ปิดที่ 728.50 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า วิกฤติหนี้ยุโรปและความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกยังคงเป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย นอกจากนี้ การที่สัญญาทองคำร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันก่อนยังเป็นอีกปัจจัยที่ดึงดูดให้นักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไร
นักวิเคราะห์จากคิงส์วิว ไฟแนนเชียลกล่าวว่า การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ประกอบกับยังไม่มีรายงานยืนยันว่ารัฐบาลจีนจะซื้อพันธบัตรอิตาลีหรือไม่ ทำให้นักลงทุนมองทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยที่สุดในช่วงนี้ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาดูการประชุมระหว่างนางแองเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี, นายนิโคลาส์ ซาร์โกซี ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และนายจอร์จ ปาปันเดรอู นายกรัฐมนตรีกรีซ ซึ่งจะมีขึ้นในวันนี้
ขณะที่นักวิเคราะห์คนอื่นๆมองว่า ทองคำจะยังคงเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยและน่าดึงดูดใจ ตราบใดที่นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของประเทศยูโรโซน และมีมุมมองว่าปัญหาหนี้ยูโรโซนไม่สามารถแก้ไขได้ในช่วงข้ามคืน