จีนได้ออกมาปกป้องกฎระเบียบด้านการกำกับดูแลว่าด้วยการทบทวนแนวทางการควบรวมและซื้อกิจการ (M&A) ของบริษัทภายในประเทศจากนักลงทุนต่างชาติ โดยระบุว่า กฎระเบียบดังกล่าวไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับการควบรวมและซื้อกิจการ
นายเฉิน ตันหยาง โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีนกล่าวในการแถลงข่าวเพื่อคลายความกังวลของนักลงทุนต่างชาติมีต่อการควบรวมและซื้อกิจการของบริษัทภายในประเทศว่า นโยบายนี้พุ่งเป้าไปยังการดำเนินการที่อาจจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศหรือมีความเสี่ยงว่าจะเป็นภัยคุกคาม
"กฎระเบียบดังกล่าวซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. และมิได้ระบุถึงแนวทางใหม่ที่กำหนดขึ้นสำหรับการซื้อกิจการและควบรวมกิจการจากนักลงทุนต่างชาติ หรือขั้นตอนการรับรองใหม่" เขากล่าวกฎระเบียบที่ออกในเดือนก.พ.ระบุว่า กระบวนการทบทวนจะครอบคลุมการควบรวมและซื้อกิจการบริษัทที่ดำเนินงานด้านการทหาร-อุตสาหกรรมภายในประเทศและการช่วยเหลือบริษัทต่างๆ และบริษัทที่ใกล้ชิดกับกิจการทางทหาร รวมถึงการควบรวมและซื้อกิจการในรูปแบบอื่นๆที่เห็นว่าเกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติ
นายเฉินกล่าวว่า การควบรวมและซื้อกิจการบริษัทในประเทศของนักลงทุนต่างชาติมีสัดส่วน 3.1% ของการลงทุนทางตรงต่างประเทศ (FDI) ของจีนในปีที่แล้ว โครงการควบรวมและซื้อกิจการของนักลงทุนต่างชาติในช่วงเดือนม.ค.-ส.ค.ปีนี้มีมูลค่ารวมที่ 3.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นสถิติที่สูงขึ้นมากจากปีที่แล้ว
ทั้งนี้ ยอดเงินลงทุนทางตรงจากต่างประเทศของจีนในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ อยู่ที่ 7.763 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ สำนักข่าวซินหัวรายงาน