นายทรงธรรม ปิ่นโต ผู้อำนวยการ สำนักเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)เปิดเผยว่า ธปท.ติดตามสถานการณ์อุทกภัยหลายพื้นที่ของประเทศอย่างใกล้ชิด เพราะขณะนี้สถานการณ์ยังไม่ยิ่งจึงยังไม่สามารถประเมนความเสียหายได้อย่างชัดเจน แต่ในเบื้องต้นปัญหาภัยน้ำท่วมจะมีผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมได้รับความเสียหายในระยะสั้น จึงต้องดูว่าหากสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติแล้วภาคการผลิตที่หยุดชะงักลงไปจะฟื้นกลับมาได้เร็วแค่ไหน
ขณะที่ผลกระทบต่อพื้นที่เกษตรกรรรมมีความเสียหายชัดเจน แต่จะมีผลกระทบต่อการขยายตัวเศรษฐกิจหรือไม่ขึ้นอยู่กับปัจจัย 2 ด้าน คือ รายได้เกษตรกรที่หายไปจะมีผลต่อการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคหรือไม่ รวมถึงภาคอุตสาหกรรมที่ต้องหยุดการผลิตในช่วงนี้ จะฟื้นตัวได้เร็วแค่ไหน หากฟื้นตัวได้เร็วผลกระทบก็ไม่น่าจะรุนแรงมากนัก
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ามาตรการชดเชยและเยียวยาความเสียหายจากรัฐบาลน่าจะช่วยชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นและกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ส่วนปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบนั้นคงมีบ้าง แต่ผู้ประกอบการก็น่าจะสามารถจัดหาวัตถุดิบจากแหล่งอื่นมาทดแทนได้
ส่วนกรณีที่กลุ่มยุโรปเตรียมใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเชิงปริมาณ (QE) เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจนั้น นายทรงธรรม กล่าวว่า น่าจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นได้ในระยะสั้น แต่ยอมรับว่าจะส่งผลกระทบต่อกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายให้ยังมีความผันผวนต่อไป เพราะปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างทีต้องใช้เวลาแก้ไขยาวนาน.