สภาธุรกิจจีน-สหรัฐ (USCBC) ซึ่งเป็นองค์กรธุรกิจทวิภาคีชั้นนำ ระบุว่า ร่างกฎหมายต่อต้านการปั่นค่าเงินของจีนที่สหรัฐนำมาใช้และถูกต่อต้านอย่างหนักจากจีนนั้น มีข้อเสียมากกว่าข้อดี
นายอีริน เอ็นนิส รองประธานสภา USCBC กล่าวในแถลงการณ์ว่า USCBC ยังคงสนับสนุนข้อเรียกร้องที่ว่า จีนจำเป็นต้องดำเนินการให้รวดเร็วขึ้นในเรื่องการเปิดเสรีอัตราแลกเปลี่ยน แต่การผลักดันกฎหมายภาษีนำเข้าจากจีนจะไม่นำไปสู่การบรรลุเป้าหมายนี้ จะมีผลกระทบต่อรายได้ของครัวเรือนอเมริกัน ในช่วงเวลาที่ภาคครัวเรือนกำลังมีรายได้ลดลง
วุฒิสภาสหรัฐได้อนุมัติร่างกฎหมายการปฏิรูประบบกำกับดูแลอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งถูกต่อต้านจากจีนและมีแนวโน้มที่จะลงโทษจีนในเรื่องการปั่นค่าเงินด้วยกำแพงภาษี เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าจะได้รับการต่อต้านอย่างรุนแรงจากจีนและกลุ่มธุรกิจหลายกลุ่มในสหรัฐก็ตาม
แถลงการณ์ของนายเอ็นนิสระบุว่า การจำกัดการนำเข้าจากจีนไม่ได้หมายความว่า จะเป็นการเพิ่มการจ้างงานในสหรัฐ หรือลดยอดขาดดุลการค้าลง แต่จะทำให้สหรัฐเพียงเปลี่ยนไปนำเข้าจากซัพพลายเออร์จากประเทศอื่นแทนเท่านั้น และหากร่างกฎหมายนี้มีเป้าหมายเพื่อการจ้างงาน ก็จะกลายเป็นกฎหมายการจ้างงานสำหรับเวียดนาม อินโดนีเซีย และ เม็กซิโก แทน
USCBC เชื่อว่า คณะผู้บริหารของประธานาธิบดีโอบามา จะเลือกใช้ทั้งวิธีการเจรจาระดับพหุภาคีและทวิภาคีกับจีน ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการสร้างความก้าวหน้าเกี่ยวกับประเด็นอัตราแลกเปลี่ยน
ทั้งนี้ USCBC เป็นองค์กรเอกชนอิสระที่ไม่แสวงหากำไร และประกอบไปด้วยสมาชิกบริษัทสหรัฐ 240 บริษัทที่ทำธุรกิจร่วมกับจีน สำนักข่าวซินหัวรายงาน