ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่กฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ลงวันที่ 6 พ.ค.68 เพื่อปรับเพิ่มอัตราภาษีสรรพสามิตสำหรับน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซล
น้ำมันเบนซิน อัตราภาษีใหม่ 7.50 บาทต่อลิตร จากเดิม 6.50 บาทต่อลิตร
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี 10: อัตราภาษี 6.75 บาทต่อลิตร เดิม 5.85 บาทต่อลิตร
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี 20: อัตราภาษี 6.00 บาทต่อลิตร เดิม 5.85 บาทต่อลิตร
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี 85: อัตราภาษี 1.125 บาทต่อลิตร เดิม 0.975 บาทต่อลิตร
น้ำมันดีเซล อัตราภาษี 7.44 บาทต่อลิตร
น้ำมันดีเซลที่มีไบโอดีเซลผสมอยู่ไม่เกินร้อยละ 4: อัตราภาษี 7.44 บาทต่อลิตร
น้ำมันดีเซลที่มีไบโอดีเซลผสมอยู่เกินร้อยละ 4 แต่ไม่เกินร้อยละ 7: อัตราภาษี 6.92 บาทต่อลิตร
น้ำมันดีเซลที่มีไบโอดีเซลผสมอยู่เกินร้อยละ 7 แต่ไม่เกินร้อยละ 9: อัตราภาษี 6.85 บาทต่อลิตร
น้ำมันดีเซลที่มีไบโอดีเซลผสมอยู่เกินร้อยละ 9 แต่ไม่เกินร้อยละ 14: อัตราภาษี 6.70 บาทต่อลิตร
น้ำมันดีเซลที่มีไบโอดีเซลผสมอยู่เกินร้อยละ 14 แต่ไม่เกินร้อยละ 19: อัตราภาษี 6.33 บาทต่อลิตร
น้ำมันดีเซลที่มีไบโอดีเซลผสมอยู่เกินร้อยละ 19 แต่ไม่เกินร้อยละ 25: อัตราภาษี 5.953 บาทต่อลิตร
กฎกระทรวงนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงนี้ เนื่องจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวลดลง รัฐบาลจึงเห็นสมควรเพิ่มอัตราภาษีสรรพสามิตสำหรับสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน เพื่อให้รัฐมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้น อันเป็นการรักษาความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศและเสถียรภาพทางการคลังของรัฐ
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) มีมติเห็นชอบให้ปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงประเภท