ศูนย์วิจัยทองคำ เผยดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำ เดือน มิ.ย.68 อยู่ที่ 73.67 จุด ปรับตัวลดลง 3.08 จุด หรือ 4.01% จากระดับ 76.75 จุดในเดือน พ.ค.68 โดยมีปัจจัยจากรายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ปรับตัวดีขึ้น, การเจรจาการค้าของสหรัฐฯ มีความคืบหน้า, เงินทุนไหลเข้าสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ, ความกังวลเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED และนโยบายทางเศรษฐกิจของประธานาธิบดีสหรัฐฯ
ขณะที่คาดการณ์ความต้องการซื้อทองคำในช่วงเดือน มิ.ย.68 จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 338 ราย ในจำนวนนี้มี 149 ราย หรือ 44% คาดว่าจะซื้อทองคำ ส่วนจำนวน 113 ราย หรือ 33% ไม่แน่ใจว่าจะซื้อทองคำในเดือนนี้หรือไม่ และจำนวน 76 ราย หรือ 23% คาดว่าจะไม่ซื้อทองคำ
ส่วนกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่และผู้ประกอบกิจการนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำจำนวน 12 ราย ในจำนวนนี้มี 5 ราย หรือ 42% เชื่อว่าราคาทองคำในเดือน มิ.ย.68 จะลดลง และจำนวน 4 ราย หรือ 33% คาดว่าจะเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 3 ราย หรือ 25% คาดว่าจะใกล้เคียงกับราคาทองคำในเดือน พ.ค.68
สำหรับการคาดการณ์กรอบราคาทองคำในเดือน มิ.ย.68 ของผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่มีมุมมอง ดังนี้ ราคาทองคำตลาดโลก (Gold Spot) ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 3,184-3,414 ดอลลาร์/ออนซ์ ด้านราคาทองคำแท่งในประเทศความบริสุทธิ์ 96.5% ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 49,600-52,700 บาท/บาททองคำ และค่าเงินบาทให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 32.08-33.26 บาท/ดอลลาร์
ภาวะการลงทุนทองคำในเดือน มิ.ย.68 ยังคงเผชิญกับความผันผวน แม้ว่าราคาทองคำในเดือนที่ผ่านมาจะไม่สามารถทำจุดสูงสุดใหม่ได้ แต่ก็มีสัญญาณบวกจากการที่ระดับราคาปรับตัวสูงขึ้น สะท้อนถึงแรงซื้อที่ยังคงมีอยู่ในตลาด โดยภาพรวมของราคาทองคำยังเคลื่อนไหวในลักษณะทรงตัวในกรอบแคบ แต่มีแนวโน้มค่อย ๆ ขยับขึ้นในระยะกลาง โดยกลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ควรเน้นการบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม นักลงทุนควรรอดูจังหวะเมื่อราคาย่อตัวลงใกล้แนวรับอาจทยอยเข้าซื้อเพิ่ม หรือหากราคาทองปรับตัวสูงขึ้นแต่ยังไม่สามารถผ่านแนวต้านสำคัญได้ อาจพิจารณาแบ่งขายบางส่วนทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยง พร้อมทั้งติดตามปัจจัยที่อาจกระทบต่อทิศทางราคาทองคำอย่างใกล้ชิด