
นายวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู รองปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะโฆษกกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า หลังจากเกิดการสู้รบระหว่างอิสราเอลและอิหร่านในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ล่าสุดจะมีรายงานข่าวว่าอิหร่านพร้อมกลับมาเจรจาเรื่องโครงการพัฒนานิวเคลียร์กับสหรัฐฯ หลังจากที่อิหร่านได้ยกเลิกการเจรจาไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาก็ตามนั้น แต่สถานการณ์การสู้รบก็ยังมีความไม่แน่นอน ทำให้หลายประเทศเกิดความกังวลต่อสถานการณ์
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์จากหลายหน่วยงาน คาดการณ์ว่า หากการสู้รบขยายวงกว้างขึ้น จะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก รวมทั้งอาจจะมีการปิดกั้นเส้นทางในการขนส่งน้ำมัน เช่น ที่ช่องแคบฮอร์มุช ซึ่งเป็นเส้นทางสำคัญในการขนส่งน้ำมันระหว่างประเทศ
นายวีรพัฒน์ กล่าวว่า กระทรวงพลังงาน ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยด้านราคาน้ำมัน ปัจจุบันราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 72.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ปรับเพิ่มขึ้นจากต้นเดือนมิ.ย. ซึ่งอยู่ที่ระดับ 65 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ได้มีมติเมื่อวานนี้ (16 มิ.ย.) ให้ปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับน้ำมันเบนซิน และน้ำมันดีเซล โดยใช้กลไกอัตราเงินกองทุนน้ำมันฯ เข้ามาช่วยรักษาเสถียรภาพ และพยุงราคาน้ำมันในประเทศ ไม่ให้กระทบกับความต่อเนื่องในการบริหารจัดการกองทุนน้ำมันฯ ในระยะยาว
ส่วนด้านปริมาณสำรองน้ำมันภายในประเทศ ปัจจุบันมีน้ำมันดิบคงเหลือประมาณ 3,337 ล้านลิตร เพียงพอต่อความต้องการใช้ 25 วัน น้ำมันดิบที่อยู่ระหว่างขนส่ง 2,457 ล้านลิตร เพียงพอต่อความต้องการใช้ 19 วัน และน้ำมันสำเร็จรูป 1,874 ล้านลิตร เพียงพอต่อความต้องการใช้ 16 วัน รวมปริมาณน้ำมันคงเหลือที่สามารถใช้ได้ 60 วัน ซึ่งหากสถานการณ์มีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น จะมีการบริหารจัดการเพื่อเพิ่มปริมาณสำรองน้ำมันภายในประเทศ เพื่อลดผลกระทบด้านราคาให้มากที่สุด
รองปลัดกระทรวงพลังงาน ย้ำว่า กระทรวงพลังงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ติดตามและประเมินสถานการณ์การสู้รบระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านอย่างใกล้ชิด ได้เตรียมพร้อมในเรื่องของปริมาณสำรองพลังงาน ซึ่งมีข้อกำหนดและมาตรการในการสำรองปริมาณน้ำมัน และก๊าซหุงต้มอยู่แล้ว รวมถึงการเตรียมแนวทางการบริหารจัดการด้านราคา หากการสู้รบรุนแรงขึ้นและยืดเยื้อ
"ไทยเป็นประเทศนำเข้าน้ำมัน ทำให้ไม่สามารถหลีกเลี่ยงผลกระทบด้านราคาได้ ซึ่งเมื่อวานนี้ กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงก็ได้มีมติปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนฯ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชน และเตรียมความพร้อมในการบริหารจัดการ หากราคาน้ำมันในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้นอีก จึงขอให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพลังงานจะติดตามสถานการณ์ และดำเนินทุกมาตรการ เพื่อรักษาเสถียรภาพด้านราคา และปริมาณสำรองน้ำมัน และขอให้ประชาชนใช้พลังงานอย่างประหยัดเพื่อลดการนำเข้า ก็จะช่วยให้ประเทศลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานได้ด้วย" นายวีรพัฒน์ กล่าว