ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 32.69 อ่อนค่าสุดในภูมิภาค-กังวลภาษีทรัมป์ คาดกรอบวันศุกร์ 32.50-32.80

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday July 9, 2025 17:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 32.69 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่า จากเปิดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 32.58 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทเคลื่อนไหวตามทิศทางเดียวกับค่าเงินในภูมิภาค เนื่องจากตลาดมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากภาษีทรัมป์ และสถานการณ์ราคาทองในตลาดโลก ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 32.58 - 32.72 บาท/ดอลลาร์

"วันนี้ บาทปรับตัวอ่อนค่าสุดในภูมิภาค จากความกังวลเรื่องภาษีทรัมป์ และทิศทางราคาทองคำในตลาดโลก" นักบริหาร
เงินฯ กล่าว

โดยปัจจัยที่ตลาดจับตาดูในช่วงนี้ เป็นเรื่องความคืบหน้าการเจรจาต่อรองภาษีการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศต่าง ๆ

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันศุกร์ไว้ที่ 32.50 - 32.80 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 146.62 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 146.87 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1710 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.1719 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ 1,110.40 จุด ลดลง 5.25 จุด (-0.47%) มูลค่าซื้อขาย 27,165.01 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 15.08 ล้านบาท
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในครึ่งปีหลังจะชะลอตัวลงเหลือ
เพียง 1.6% จากที่ครึ่งปีแรกขยายตัวได้ดี เนื่องจากได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีการค้าของสหรัฐ ทำให้ GDP ในช่วงต่อจากนี้ขยาย
ตัวต่ำกว่า 2% ไปอีกอย่างน้อยปีครึ่ง โดยประเมินการส่งออกในช่วงครึ่งหลังของปีนี้จะหดตัว 4% และปีหน้าจะหดตัวต่อเนื่องอีก 2%
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ชี้ผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ต่อเศรษฐกิจไทยจะไม่รุนแรงเท่าช่วงวิกฤต
การเงินโลก หรือช่วงวิกฤตโควิด-19 เนื่องจากมีมิติของระยะเวลาความรุนแรงแตกต่างกัน โดยนโยบายภาษีสินค้านำเข้า
(Reciprocal Tariffs) ของสหรัฐฯ จะมีนัยระยะยาวต่อเศรษฐกิจค่อนข้างมาก
  • ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย เผยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือน มิ.ย.68 อยู่ที่ระดับ 52.7 ลด
ลงจากระดับ 54.2 ในเดือน พ.ค.68 โดยปรับตัวลดลงในทุกรายการ ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 และอยู่ในระดับที่ต่ำสุดในรอบ 28
เดือนนับตั้งแต่เดือน มี.ค.66 เนื่องจากปัญหาเสถียรภาพทางการเมือง และสงครามการค้า
  • สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือ สภาผู้ส่งออก จี้ทีมไทยแลนด์เจรจาต่อรองภาษีศุลกากรตอบโต้
(Reciprocal Tariff) กับสหรัฐฯ ให้ได้ข้อยุติถูกเรียกเก็บภาษีในอัตราต่ำกว่า 20% เท่าคู่แข่ง ภายในวันที่ 1 ส.ค.68
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมิน GDP ไทยในปี 2568 เสี่ยงโตต่ำกว่า 1.4% หากเผชิญอัตราภาษีนำเข้าสูงกว่าหลาย
ประเทศ ซึ่งกระทบต่อการส่งออกให้หดตัวลึกขึ้น และทำให้การลงทุนจากต่างชาติชะลอตามด้วยการลงทุนเอกชนหดตัวมากขึ้น ขณะที่ยังมี
ปัจจัยอื่น ๆ ที่เป็นความเสี่ยงของเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปี 68 โดยเฉพาะจำนวนนักท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มต่ำกว่าที่ประเมิน เนื่อง
จากปัจจัยลบที่เข้ามากดดันเพิ่มขึ้น อาทิ สถานการณ์ในตะวันออกกลาง และสถานการณ์ไทย-กัมพูชา
  • ที่ประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (UNCTAD) เผยมูลค่าการค้าโลกในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 ปรับตัว
ขึ้น 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นการขยายตัวในอัตราที่ช้าลง
  • สหรัฐฯ เตรียมมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียอย่างรุนแรงรอบใหม่ ขณะที่สำนักงานอัยการสูงสุดของรัสเซียได้ประกาศให้มหา
วิทยาลัยเยลของสหรัฐฯ เป็นองค์กรไม่พึงปรารถนา
  • คืนนี้ สหรัฐฯ จะมีการรายงานการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ช่วงวัน

ที่ 17-18 มิ.ย.68 และรายงานสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่ง เดือนพ.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ