ทรีนีตี้ ประเมิน SET แกว่ง 1,180-1,270 จุดหลังสรุปภาษีไทย 19% ตามคาด คัดหุ้นท่องเที่ยว-รพ.น่าลงทุน

ข่าวเศรษฐกิจ Friday August 1, 2025 14:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ เปิดเผยถึงทิศทางตลาดหุ้นไทยเดือนส.ค.ว่า ประเมิน SET Index เดือนส.ค.จะแกว่งในกรอบ 1,180-1,270 จุด

โดยระดับแนวต้านที่ 1,270 จุดมีที่มาจากเป้าหมายดัชนี SET ในกรณีฐานตามวิธี PE Model ของทรีนีตี้ตามเดิม และเป็นระดับที่อิงสมมติฐานการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่ 0.25% ในช่วงที่เหลือของปีนี้เรียบร้อยแล้ว

ส่วนแนวรับที่ 1,180 จุด เป็นระดับที่เคยประเมินว่าดัชนี SET จะยืนเหนือได้ หากอัตราภาษี Tariff สุดท้ายที่ไทยถูกสหรัฐฯเรียกเก็บอยู่ในระดับ 20% หรือต่ำกว่า ซึ่งสุดท้ายแล้วเป็นเช่นนั้นจริง

หลังจากผ่านพ้นประเด็น Tariff สหรัฐในช่วงต้นเดือนไปแล้ว ตลาดน่าจะเริ่มหันมาให้น้ำหนักกับปัจจัยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่กำลังทยอยออกมามากขึ้น รวมถึงปัจจัยการเมืองในประเทศที่จะกลับมาเข้มข้นอีกครั้งในเดือนนี้ ไม่ว่าจะเป็นการพิพากษาของศาลอาญาคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีมาตรา 112, ศาลฎีกาฯ คดีนายทักษิณกรณีชั้น 14, การวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญต่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ว่าขาดคุณสมบัติการเป็นนายกฯ หรือไม่ และการชุมนุมทางการเมืองที่กลับมาอีกครั้ง

ทั้งนี้ หากเหตุการณ์เหล่านี้ไม่ได้นำมาซึ่งเงื่อนเวลาของการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 69 ที่เปลี่ยนแปลงไป เชื่อว่าจะพอเป็นสิ่งที่นักลงทุนยอมรับได้ และไม่น่ามีผลกระทบต่อภาพ SET Index มากนัก

ในเชิงกลยุทธ์ แนะนำใช้กลยุทธ์ขึ้นขาย-ลงซื้อตามกรอบดัชนีที่ประเมินไว้ โดยมองโซนในการทยอยลดน้ำหนักหุ้นอยู่ที่บริเวณดัชนี 1,250-1,270 จุด ส่วนโซนในการทยอยเข้าสะสมหุ้นอยู่ที่บริเวณดัชนี 1180-1200 จุด สำหรับกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจในเดือนนี้ ได้แก่

1) กลุ่มท่องเที่ยวที่ Earnings เตรียมผ่านพ้นจุดต่ำสุดในไตรมาส 2 พร้อมๆกับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง และมีมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวที่ภาครัฐอาจออกมาสนับสนุนในช่วงถัดไป เลือก AWC, BA, CENTEL, ERW

2) กลุ่มโรงพยาบาลที่เตรียมเข้าสู่ High season และเริ่มเห็นการฟื้นตัวของกลุ่มผู้ป่วยต่างชาติ และน่าจะมีความคืบหน้าในการจ่ายค่ารักษาประกันสังคมภาระเสี่ยงเพิ่มเติม รวมถึงค่ารักษา COVID ค้างจ่าย เลือก BDMS, BH, BCH, CHG

นายณัฐชาต กล่าวอีกว่า สหรัฐฯ กำหนดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าไทยที่ 19% เป็นอัตราเดียวกับประเทศเพื่อนบ้านหลายแห่ง เช่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และกัมพูชา ถือว่าใกล้เคียงกับที่นักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ ดังนั้น ผลกระทบในแง่ของดัชนี SET อาจมีไม่มากนักหรืออาจเห็นปรากฏการณ์ Sell on fact บ้างในระยะสั้น แ

ต่ในส่วนของกลุ่มหุ้นที่เกี่ยวข้องโดยตรงอย่างกลุ่มส่งออก เช่น กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และ อาหารสัตว์เลี้ยง รวมถึงกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมนั้น ประเมินว่าความชัดเจนที่เกิดขึ้นนี้ จะเป็นตัวปลดล็อกความ Overhang ที่เคยกดดันตัวหุ้นมาก่อนหน้านี้ได้บ้าง

สิ่งที่คงต้องติดตามต่อไปก็คือรายละเอียดของดีลที่เกิดขึ้นว่าไทยเราจะต้องเปิดตลาดสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ รายการใดบ้าง และต้องมีการลดอากรขาเข้าต่อสินค้าเหล่านี้มากน้อยเพียงใด ซึ่งหากเป็นข้อแลกเปลี่ยนที่มาก อาจเป็นปัจจัยกดดันภาพ GDP ของไทยในช่วงถัดไป ผ่านตัวแปร Net export ที่ปรับลดลงได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ