สรท.ลุ้นส่งออกปีนี้โตอย่างน้อย 5-7% หลังภาษีทรัมป์ชัดเจน ชง 4 ข้อเสนอเสริมศักยภาพแข่งขัน

ข่าวเศรษฐกิจ Friday August 1, 2025 17:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สรท.ลุ้นส่งออกปีนี้โตอย่างน้อย 5-7% หลังภาษีทรัมป์ชัดเจน ชง 4 ข้อเสนอเสริมศักยภาพแข่งขัน

นายธนากร เกษตรสุวรรณ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า ผลการเจรจาภาษีนำเข้าสินค้า (Reciprocal Tariff) กับสหรัฐฯ ที่สามารถปรับลดจากเดิม 36% ลงเหลือ 19% ถือว่าอยู่ในระดับที่เป็นไปตามความคาดหมายของภาคเอกชน และขอขอบคุณคณะผู้แทนเจรจาของประเทศไทยที่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ในการเจรจา โดยได้รับอัตราภาษีที่ใกล้เคียงกับประเทศคู่แข่งสำคัญในภูมิภาค ทำให้สินค้าไทยยังคงสามารถแข่งขันได้และความชัดเจนของอัตราภาษีส่งผลดีต่อการส่งออกของไทยในช่วงครึ่งปีหลัง โดยคาดว่าการส่งออกทั้งปี 2568 จะสามารถเติบโตได้อย่างน้อย 5-7%

อย่างไรก็ตาม อัตราภาษี 19% ยังคงมีผลกระทบต่อการส่งออก ได้แก่

1) ผู้นำเข้าของสหรัฐฯ จะมีการเจรจาในราคาซื้อขายสินค้ากับผู้ส่งออกไทยเพื่อแบ่งภาระภาษีร่วมกัน ซึ่งจะเป็นต้นทุนทางตรงกับผู้ส่งออกไทย รวมถึงลดอัตรากำไรลงอย่างมาก

2) ผู้ผลิตวัตถุดิบต้นน้ำภายในประเทศของไทยจะได้รับผลกระทบต่อเนื่อง เนื่องจากผู้ผลิตเพื่อส่งออกจำเป็นต้องเจรจาด้านราคาวัตถุดิบ เพื่อลดต้นทุนสินค้าส่งออกให้สามารถแข่งขันได้ ทำให้ส่งผลกระทบต่อรายได้ของผู้ประกอบการและเกษตรกรในประเทศในท้ายที่สุด

3) ผู้บริโภคของสหรัฐอเมริกาจะต้องแบกรับราคาสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น แม้ว่าราคาสินค้าที่วางจำหน่ายอาจไม่ได้ปรับขึ้นในสัดส่วนมากถึง 19% และผู้บริโภคส่วนใหญ่จะทำใจยอมรับ แต่ราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ปริมาณการบริโภคสินค้าขั้นสุดท้ายลดลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

4) สินค้าส่งไปสหรัฐฯ ได้น้อยลง โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภคจะถูกส่งจากประเทศคู่แข่งไปยังตลาดรองอื่น ทำให้เกิดการแข่งขันด้านราคาทั่วโลก

ดังนั้น สรท.จึงมีข้อเสนอให้ภาครัฐและภาคเอกชนร่วมเดินหน้าเสริมความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการไทย เพื่อรับมือกับการแข่งขันในตลาดโลกที่จะรุนแรงมากขึ้น ได้แก่

1) ปรับลดต้นทุนการดำเนินธุรกิจ เพื่อพยุงให้ราคาสินค้าไทยสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก ประกอบไปด้วย

- ต้นทุนทางการเงินทั้งในส่วนของอัตราแลกเปลี่ยน ให้สอดคล้องกับภูมิภาค และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ให้สะท้อนสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ

- ลดต้นทุนพลังงานสำหรับภาคการผลิตและภาคการขนส่ง

- ชะลอการปรับเพิ่มขึ้นต้นทุนค่าแรงงาน

2) เร่งรุกตลาดใหม่ ทั้งการเจรจาการค้าเสรี การจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ กิจกรรมคณะผู้แทนการค้าไทยไปเยือนตลาดเป้าหมาย และกิจกรรมจับคู่ธุรกิจในแต่ละกลุ่มสินค้า

3) เร่งเสริมสภาพคล่อง และสนับสนุนเงินทุนหมุนเวียนเพียงพอสำหรับรองรับการเปิดตลาดใหม่

4) เข้มงวดการควบคุมมาตรฐานสินค้านำเข้า เพื่อลดแรงกดดันต่อผู้ประกอบการในประเทศ เป็นต้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ