
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) รายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ไตรมาสที่ 2/68 ขยายตัว 2.8% จากตลาดคาด 2.5-2.7% แต่ชะลอลงจากในไตรมาส 1/68
ปัจจัยหลักมาจากการชะลอตัวของการผลิตภาคนอกเกษตร โดยเฉพาะกลุ่มบริการที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ขณะที่การผลิตภาคเกษตรขยายตัวต่อเนื่อง สำหรับด้านการใช้จ่าย การอุปโภคบริโภคขั้นสุดท้ายของเอกชน และการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคขั้นสุดท้ายของรัฐบาลชะลอตัวลง การส่งออกสินค้าและบริการขยายตัวต่อเนื่อง ขณะที่การสะสมทุนถาวรเบื้องต้น และการนำเข้าสินค้าและบริการเร่งตัวขึ้น รวมครึ่งปีแรกผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศขยายตัว 3.0%
นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒน์ ระบุว่า ในช่วงไตรมาสที่ 2 การส่งออกสินค้าของไทยขยายตัวในเกณฑ์สูง ที่ 15% โดยสามารถขยายตัวได้ต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 5 ตามการเร่งส่งออกสินค้า ก่อนสิ้นสุดช่วงผ่อนผันอัตราภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal tariff) ของสหรัฐฯ โดยสินค้าที่มีมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ คอมพิวเตอร์, ชิ้นส่วนและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์, เครื่องจักรและอุปกรณ์, แผงวงจรรวมและชิ้นส่วน, ชิ้นส่วนและอุปกรณ์สำหรับยานยนต์ และยาง
ขณะที่การลงทุนภาคเอกชน ในช่วงไตรมาส 2 ขยายตัว 4.1% ถือเป็นการกลับมาขยายตัวได้เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ไตรมาส สอดคล้องกับการขยายตัวของการลงทุนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร ที่เป็นการเพิ่มขึ้นของการลงทุนทั้งในหมวดยานยนต์ หมวดอุตสาหกรรม และหมวดเครื่องใช้สำนักงาน แต่ทั้งนี้ การลงทุนในหมวดก่อสร้าง ลดลงติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 5 ตามการลดลงของการก่อสร้างอาคารที่อยู่อาศัยเป็นสำคัญ
ส่วนการอุปโภค-บริโภคภาคเอกชน ขยายตัว 2.1% ชะลอลงจากไตรมาสก่อนหน้า โดยเป็นการชะลอตัวของการใช้จ่ายในหมวดบริการเป็นสำคัญ สอดคล้องกับการปรับตัวลดลงของดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่ปรับลดลง
สำหรับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทย ช่วงไตรมาส 2/68 มีจำนวน 7.13 ล้านคน ลดลง 12.2% จากไตรมาสแรก โดยนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางมาไทยสูงที่สุด 5 อันดับแรก ประกอบด้วย มาเลเซีย 1.14 ล้านคน, จีน 0.93 ล้านคน, อินเดีย 0.64 ล้านคน, รัสเซีย 0.31 ล้านคน และเกาหลีใต้ 0.27 ล้านคน ขณะที่รายรับจากการท่องเที่ยว อยู่ที่ 3.4 แสนล้านบาท อัตราการเข้าพักอยู่ที่ 69.8% ลดลงจากไตรมาสแรก
อัตราเงินเฟ้อ ในไตรมาสที่ 2 อยู่ที่ -0.3% ติดลบเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ไตรมาส ซึ่งเป็นผลจากการลดลงของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ตามการลดลงของราคาพลังงานในตลาดโลก และจากฐานที่สูงในปีก่อน