ครม.ไฟเขียวชดเชยดอกเบี้ยให้ชาวไร่อ้อย บริหารจัดการแหล่งน้ำ-ซื้อเครื่องจักรการเกษตร

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday August 26, 2025 16:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ครม.ไฟเขียวชดเชยดอกเบี้ยให้ชาวไร่อ้อย บริหารจัดการแหล่งน้ำ-ซื้อเครื่องจักรการเกษตร

น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบในหลักการโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้กับเกษตรกรชาวไร่อ้อย สำหรับบริหารจัดการแหล่งน้ำ และซื้อเครื่องจักรการเกษตรในไร่อ้อย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอ้อย และแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ปี 2568-2570

โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะสนับสนุนสินเชื่อให้แก่เกษตรกรชาวไร่อ้อย กลุ่มเกษตรกร หรือสหกรณ์การเกษตร หรือสถาบันชาวไร่อ้อย หรือกลุ่มบุคคล หรือกลุ่มวิสาหกิจชุมชน วงเงินปีละ 2,000 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 6,000 ล้านบาท (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568-2570)

1. กำหนดระยะเวลาการชำระเงินคืนเงินกู้เสร็จสิ้นตามโครงการฯ โดยแยกตามวัตถุประสงค์การกู้เงิน หากกู้เงินเพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งโดยการพัฒนาแหล่งน้ำ และพัฒนาระบบการให้น้ำ และเพื่อปรับพื้นที่ปลูกอ้อย กำหนดชำระคืนเงินกู้เสร็จสิ้นไม่เกิน 6 ปี และหากกู้เงินเพื่อซื้อเครื่องจักรกลการเกษตร กำหนดชำระคืนเงินกู้เสร็จสิ้นไม่เกิน 8 ปี

2. ให้รัฐบาลรับภาระชดเชยดอกเบี้ย โดยกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ตามโครงการฯ ดังนี้

(1) อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ตามโครงการฯ สำหรับเกษตรกรรายคน รัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยให้ ธ.ก.ส. แทนผู้กู้ในอัตรา 3% ต่อปี

(2) อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ตามโครงการฯ สำหรับกลุ่มเกษตรกร หรือสหกรณ์การเกษตร หรือสถาบันชาวไร่อ้อย หรือกลุ่มบุคคล หรือกลุ่มวิสาหกิจชุมชน รัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยให้ ธ.ก.ส. แทนผู้กู้ในอัตรา 2% ต่อปี

(3) อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ วัตถุประสงค์เพื่อจัดซื้อเครื่องจักรการเกษตร ประเภทรถบรรทุกและพ่วงบรรทุก รวมทั้งอากาศยานไร้คนขับ รัฐบาลไม่ต้องชดเชยดอกเบี้ย

นอกจากนี้ ที่ประชุม ครม.ยังอนุมัติกรอบวงเงินฯ เพื่อชดเชยดอกเบี้ยตามโครงการฯ ปี 2568-2570 ให้กับ ธ.ก.ส. จำนวน 945 ล้านบาท ซึ่งคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาล ได้มีมติเห็นชอบโครงการฯ แล้ว โดยมีรายละเอียดสรุปได้ ดังนี้

1. วัตถุประสงค์ของโครงการฯ

เพื่อจัดหาแหล่งเงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำให้กับระบบอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาล สนับสนุนการจัดหาแหล่งน้ำ การจัดหาอุปกรณ์การบริหารจัดการน้ำในไร่อ้อยให้เพียงพอในการปลูกอ้อย หรือจัดหาแหล่งน้ำสำรอง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเมื่อเกิดภัยแล้ง และส่งเสริมให้มีการนำเครื่องจักรกลทางการเกษตร มาใช้ในการผลิตอ้อยอย่างครบวงจร เพื่อลดปัญหาการเผาอ้อยและฝุ่น PM 2.5

2. วงเงินสินเชื่อจากเงินทุนของ ธ.ก.ส.

วงเงิน 2,000 ล้านบาท/ปี ระยะยเวลา 3 ปี รวมทั้งสิ้น 6,000 ล้านบาท โดยให้โรงงานน้ำตาลเป็นผู้ค้ำประกันลูกค้าผู้กู้แต่ละรายเต็มวงเงินกู้

3. วงเงินกู้ต่อราย

แต่ละราย เมื่อรวมทุกวัตถุประสงค์แล้ว ต้องไม่เกิน 38.05 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นวัตถุประสงค์ ดังนี้

- เพื่อพัฒนาแหล่งน้ำและการบริหารจัดการน้ำในไร่อ้อย วงเงินรวมรายละไม่เกิน 1 ล้านบาท

- เพื่อปรับพื้นที่ปลูกอ้อย เป็นแปลงใหญ่ให้เหมาะสมกับเครื่องจักรกลการเกษตร รายละไม่เกิน 500,000 บาท ในอัตราไม่เกินไร่ละ 2,500 บาท

- เพื่อจัดซื้อเครื่องจักรกลการเกษตร-รถตัดอ้อย รายละไม่เกิน 15 ล้านบาท รถคีบอ้อย รายละไม่เกิน 2 ล้านบาท รถแทรกเตอร์ รายละไม่เกิน 6 ล้านบาท อุปกรณ์ส่วนควบและอุปกรณ์ทางการเกษตรอื่น ๆ รายละไม่เกิน 10.55 ล้านบาท ตามวงเงินที่กำหนดไว้ในแต่ละรายการ รถบรรทุก และพ่วงบรรทุก และอากาศยานไร้คนขับ รายละไม่เกิน 5 ล้านบาท ตามวงเงินที่กำหนดไว้ในแต่ละรายการ

4. อัตราดอกเบี้ยเงินกู้

- เกษตรกรรายคน คิดดอกเบี้ยในอัตรา MRR โดยเรียกเก็บจากผู้กู้ในอัตรา 2% ต่อปี รัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยให้ ธ.ก.ส. แทนผู้กู้ในอัตรา 3.50% ต่อปี และ ธ.ก.ส. รับภาระในส่วนที่เหลือ

- กลุ่มเกษตรกร หรือสหกรณ์การเกษตร หรือสถาบันชาวไร่อ้อย หรือกลุ่มบุคคล หรือกลุ่มวิสาหกิจชุมชน-คิดดอกเบี้ยในอัตรา MLR โดยเรียกเก็บจากผู้กู้ในอัตรา 2% ต่อปี รัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยให้ ธ.ก.ส. แทนผู้กู้ในอัตรา 3.50% ต่อปี และ ธ.ก.ส. รับภาระในส่วนที่เหลือ

- จัดซื้อเครื่องจักรการเกษตร ประเภทรถบรรทุกและพ่วงบรรทุก รวมทั้งอากาศยานไร้คนขับ-เรียกเก็บจากผู้กู้ในอัตรา 4% ต่อปี รัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยให้ ธ.ก.ส. แทนผู้กู้ในอัตรา 1.50% ต่อปี และ ธ.ก.ส. รับภาระในส่วนที่เหลือ

5. ระยะเวลาชำระคืนเงินกู้

- วัตถุประสงค์การกู้เงินเพื่อการพัฒนาแหล่งน้ำ และบริหารจัดการน้ำในไร่อ้อย และเพื่อปรับพื้นที่ปลูกอ้อย กำหนดชำระคืนเป็นรายงวดโดยให้เสร็จสิ้นไม่เกิน 6 ปี

- วัตถุประสงค์การกู้เงินเพื่อเพื่อซื้อเครื่องจักรกลการเกษตร สำหรับเครื่องจักรกลเพื่อการเกษตรเก่า กำหนดชำระคืนเงินกู้เสร็จสิ้นไม่เกิน 6 ปี และสำหรับเครื่องจักรกลเพื่อการเกษตรใหม่ กำหนดชำระคืนเงินกู้เสร็จสิ้นไม่เกิน 8 ปี

6. ระยะเวลาดำเนินการ

- ระยะเวลาจ่ายเงินกู้ 3 ปี (ตั้งแต่ ครม. มีมติ-30 ก.ย. 70)

- ระยะเวลาดำเนินโครงการชดเชยดอกเบี้ยฯ (ตั้งแต่ ครม. มีมติ-30 ก.ย. 78)

- ระยะเวลาชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ 8 ปี โดยรัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ให้แก่ ธ.ก.ส.แทนผู้กู้ นับตั้งแต่วันรับเงินกู้แต่ไม่เกินวันที่ 30 ก.ย. 78

7. งบประมาณ

รัฐบาลรับภาระชดเชยดอกเบี้ยให้กับ ธ.ก.ส. จำนวน 945 ล้านบาท และให้ ธ.ก.ส. ขอรับจัดสรรจากงบฯ ประจำปี ตามภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในการดำเนินโครงการ รวมถึงดอกเบี้ยที่พึงได้ให้นำมาบวกกลับกำไรสุทธิ เพื่อปรับตัวชี้วัดทางการเงินที่เกี่ยวข้องตามบันทึกข้อตกลงการประเมินผลการดำเนินงานรัฐวิสาหกิจ และแยกเป็นบัญชีธุรกรรมนโยบายรัฐ

"โครงการนี้ เป็นการเพิ่มโอกาสให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน สำหรับการบริหารจัดการน้ำในไร่อ้อย และทำให้เกษตรชาวไร่อ้อยมีแหล่งน้ำใช้ตลอดฤดูการเพาะปลูกอ้อย และช่วยลดภาระทางการเงินของเกษตรกรชาวไร่อ้อย รวมทั้งจูงใจให้นำเครื่องจักรกลทางการเกษตรมาใช้ในการปลูกอ้อย และการเก็บเกี่ยวอ้อยให้มากขึ้น" รองโฆษกรัฐบาล ระบุ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ