สหรัฐฯ มองศก.ไทยมีศักยภาพ "พิชัย" ย้ำหนี้สาธารณะต่ำ เปิดทางการค้า-ลงทุนเพิ่ม

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday August 27, 2025 10:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สหรัฐฯ มองศก.ไทยมีศักยภาพ

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เป็นประธานการหารือกับคณะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกา นำโดย Beth Van Duyne สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการหารือเพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้

1. การลงทุนในประเทศไทย

ฝ่ายสหรัฐฯ เห็นว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการลงทุน ขณะเดียวกัน ได้แลกเปลี่ยนความเห็นต่อหนี้สาธารณะของไทย โดย รมว.คลัง กล่าวว่า ปัจจุบันหนี้สาธารณะของไทย อยู่ที่ 64.2% ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ซึ่งโครงสร้างหนี้สาธารณะของไทย ประกอบด้วย หนี้ภายในประเทศ 99.2% และหนี้จากภายนอกประเทศ 0.8% และหนี้สาธารณะของไทย ยังอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับประเทศสมาชิกอาเซียนอื่น

สหรัฐฯ มองศก.ไทยมีศักยภาพ

2. การขาดดุลการค้า (Trade Deficit) และมาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariff)

ฝ่ายไทยได้แสดงความขอบคุณต่อสหรัฐฯ ที่ปรับลดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าไทยเป็น 19% (ปรับจากเดิม 36%) ภายใต้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ พร้อมยืนยันเจตนารมณ์ในการปฏิบัติตามข้อตกลง ได้แก่ การเพิ่มการนำเข้าสินค้าเกษตร สินค้าพลังงาน และสินค้าทางทหารจากสหรัฐฯ การลดอุปสรรคทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี (Non-Tariff Barriers: NTBs) และการกำกับดูแลภาษีการถ่ายโอนสินค้าผ่านประเทศที่สาม (Transshipment)

อีกทั้งยังหารือในประเด็นการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาทางสื่อดิจิทัล การฉ้อโกงทางการเงิน (Financial Fraud) และความสำคัญของสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะด้านแรงงาน และการคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานของแรงงาน ซึ่งฝ่ายไทยได้ชี้แจงถึงการดำเนินมาตรการคุ้มครองสิทธิแรงงานทั้งไทย และต่างด้าว ตลอดจนการปรับปรุงกฎหมาย เพื่อยกระดับมาตรฐานการคุ้มครองของแรงงานในประเทศไทย ให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล

โฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือเกี่ยวกับสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งฝ่ายไทยได้ยืนยันเจตนารมณ์ในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา โดยยึดแนวทางสันติวิธี และการเจรจาอย่างสงบ ทั้งนี้ ไทยไม่ประสงค์ให้สถานการณ์ดังกล่าวลุกลาม หรือก่อให้เกิดผลกระทบในทางลบต่อความสัมพันธ์โดยรวมระหว่างสองประเทศ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ