
นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยถึงการแก้ปัญหาเมียนมาปิดด่านการค้าชายแดนแม่สอด-เมียวดี บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 ฝั่งเมียนมา ตั้งแต่วันที่ 18 ส.ค.68 ว่า วันนี้ เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงย่างกุ้ง เมียนมา และผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) ณ กรุงย่างกุ้ง เมียนมา จะเข้าพบและหารือกับ รมว.พาณิชย์ของเมียนมา เพื่อขอให้รัฐบาลของเมียนมาผ่อนปรนความเข้มงวดการใช้มาตรการใบอนุญาตนำเข้า (Import License) และเพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบการนำเข้าสินค้าตามด่านชายแดน ที่จะต้องมีใบอนุญาตนำเข้า หากไม่มีใบอนุญาตจะไม่สามารถนำเข้าได้ จนนำมาซึ่งการปิดด่านแม่สอด-เมียวดี เป็นการชั่วคราว
"ช่วงที่ผ่านมา เกิดข้อจำกัดในกระบวนการส่งออก-นำเข้า เนื่องจากเมียนมามีข้อกังวลในเรื่องระบบการจัดการรายได้จากการส่งออก (Export Earning) และระบบใบอนุญาตนำเข้า (Import License) ซึ่งไทยยินดีรับฟัง ปรับปรุง และร่วมกันหาทางออก เพื่อให้การค้าขายกลับเข้าสู่ภาวะปกติ"โดยการหารือครั้งนี้ ฝ่ายไทยมี 3 ประเด็นสำคัญ คือ
1.ขอให้รัฐบาลเมียนมาเร่งเปิดด่านแม่สอด-เมียวดี โดยด่วน เพื่อให้การค้าขายกลับเข้าสู่ภาวะปกติ จากขณะนี้การส่งออก-นำเข้าไม่คล่องตัว และเมียนมาแนะนำให้สินค้าจากไทย และจากประเทศอื่น ๆ ที่จะเข้าสู่เมียนมาที่ด่านนี้ เปลี่ยนไปใช้เส้นทางขนส่งทางอื่นแทน เช่น ท่าเรือระนอง ที่จะมุ่งไปเกาะสอง และเข้าสู่เมืองย่างกุ้ง แต่ก็มีต้นทุนที่สูงขึ้น รวมถึงขอให้เมียนมาพิจารณาการนำมูลค่าการส่งออกสินค้าทุกรายการมายังไทย ไปคิดรวมเป็น Export Earning สำหรับการขอ Import License ด้วย จากปัจจุบันที่ไม่รวมมูลค่าการส่งออกสินค้ากลุ่มพลังงาน
2.ฝ่ายไทยพร้อมอำนวยความสะดวกในกระบวนการนำเข้า ส่งออก โดยเฉพาะด้านเอกสารต่าง ๆ เพื่อให้การส่งออก-นำเข้าคล่องตัว และสะดวก รวดเร็วมากขึ้น
3.ขอให้ทั้ง 2 ฝ่ายจัดกลุ่มสินค้าจำเป็นที่จะต้องเร่งนำเข้า-ส่งออกก่อน เช่น สินค้ากลุ่มอุปโภค-บริโภค ที่จะต้องมีการอำนวยความสะดวก และตรวจปล่อยโดยเร็ว
"จากการที่ก่อนหน้านี้ กรมฯ ได้พบกับทูตพาณิชย์เมียนมาในไทย และเอกอัครราชทูตเมียนมาในไทย โดยได้ขอให้เมียนมาช่วยผ่อนปรนการใช้มาตรการ Import License และได้รับการตอบรับที่ดี คาดว่าการหารือกันครั้งนี้ที่ย่างกุ้ง ก็น่าจะได้รับการตอบรับที่ดีเช่นกัน แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีสัญญาณว่าเมียนมาจะปิดด่านอื่น ๆ อีก นอกจากแม่สอด-เมียวดี"- หวังค้าชายแดนไทย-กัมพูชา กลับมาปกติหลังมีรัฐบาลใหม่
ส่วนสถานการณ์การค้าชายแดนไทย-กัมพูชา หลังจากที่ไทยมีรัฐบาลใหม่นั้น นางอารดา เชื่อว่า ทั้ง 2 ฝ่ายจะฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างกัน และการค้าชายแดนน่าจะกลับมาปกติได้ ซึ่งกรมฯ เตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการในการเปิดตลาดการค้า และฟื้นฟูตลาดกัมพูชา หลังจากที่ขณะนี้กัมพูชาหันไปใช้สินค้าจากประเทศอื่นแทน เช่น เวียดนาม จีน
สำหรับสถิติการค้าชายแดนไทย-เมียนมา ช่วง 7 เดือน (ม.ค.-ก.ค.) ปี 68 มูลค่าการค้ารวม 122,282 ล้านบาท ลดลง 0.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 67 โดยไทยส่งออก 72,141 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.3% และไทยนำเข้า 50,141 ล้านบาท ขณะที่เฉพาะเดือนก.ค.68 มูลค่าการค้ารวม 17,133 ล้านบาท เทียบเดือนก.ค.67 โดยไทยส่งออก 8,569 ล้านบาท และไทยนำเข้า 8,564 ล้านบาท
ขณะที่การค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ช่วง 7 เดือน มูลค่า 92,006 ล้านบาท ลดลง 9.5% โดยไทยส่งออก 72,409 ล้านบาท ลดลง 11.5% ส่วนเฉพาะเดือนก.ค.68 มูลค่าการค้ารวม 376 ล้านบาท ลดลง 97.5% เป็นไทยส่งออก 370 ล้านบาท ลดลง 97%