ราคาทอง (96.5%) ขายปลีกในประเทศ ยังคงทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ใหม่ (All Time High) ต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาทองรูปพรรณ ขายออกแตะ 58,500
เมื่อเวลา 09.04 น. สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาครั้งแรก ดังนี้
- ทองคำแท่ง รับซื้อบาททองคำละ 57,600 บาท ขายออกบาททองคำละ 57,700 บาท
- ทองรูปพรรณ รับซื้อบาททองคำละ 56,440.68 บาท ขายออกบาททองคำละ 58,500 บาท
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด ระบุว่า ภาพการเคลื่อนไหวที่ผ่านมาทองโลกมีการปรับตัวขึ้น จากการที่ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ได้มีการปรับฐานลงหลังจากปรับตัวขึ้น 2 วันติดต่อกันสู่ระดับบริเวณ 98.00 หน่วย จากระดับสูงสุดที่ 98.49 หน่วย อีกทั้งบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ อายุ 10 ปี ยังคงทรงตัวในกรอบแคบที่ระดับ 4.17-4.16% สืบเนื่องมาจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยดัชนี PCE พื้นฐานเทียบรายเดือน หดตัวลงสู่ระดับ 0.2% จากเดิมที่ขยายตัว 0.3% แต่หากเทียบเป็นรายปี ยังคงตัวที่ระดับ 2.9% ซึ่งเทียบเท่าครั้งก่อน ในขณะที่ตลาดได้มีความกังวลที่กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ อาจไม่สามารถเปิดเผยตัวเลขการจ้างงาน (Non Fram Payroll :NFP) ภายในวันที่ 3 ต.ค.นี้ จากการที่สหรัฐฯ อาจเผชิญกับการปิดหน่วยงานของรัฐบาล หรือภาวะชัตดาวน์ในวันอังคารนี้เนื่องจากยังคงมีความไม่แน่นอนในการเจรจาด้านงบประมาณภาครัฐชั่วคราวระหว่างปธน.ทรัมป์-พรรคเดโมแครต
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวบลูมเบิร์ก คาดการณ์ตัวเลข NFP ที่จะมีการประกาศในวันศุกร์นี้อาจเพิ่มขึ้น 50,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. หลังจากเพิ่มขึ้นเพียง 22,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ในขณะที่อัตราการว่างงานอาจทรงตัวที่ 4.3% ทางด้านกองทุน SPDR ซื้อทองคำ 8.87 ตัน รวมสุทธิ 1,005.72 ตัน
สำหรับทองโลกอยู่ในระยะ Sideway Up จึงแนะนำใช้กลยุทธ์ย่อเก็บสะสมจากแนวรับที่ระดับ 3,760 ดอลลาร์ และขายทำกำไรหากราคาขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 3,790 ดอลลาร์ แต่หากราคาหลุดแนวรับที่ 3,750 ดอลลาร์ แนะนำขายตัดขาดทุนไปก่อน
ส่วนราคาทองในประเทศรับตัวขึ้นตามทองโลก ในขณะที่ค่าเงินบาท Sideway จึงแนะนำเข้าซื้อสะสมแนวรับที่ระดับ 57,450 บาท และขายทำกำไรหากราคาทดสอบแนวต้านที่ 57,750 บาท แต่หากราคาหลุดแนวรับที่ 57,350 บาท แนะนำขายตัดขาดทุน