รมว.คลัง เปิดแผนแก้หนี้ปชช. เล็งดัน SAM-BAM ตั้ง AMC ซื้อ NPL ไม่เกิน 1 หมื่นลบ.

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday October 7, 2025 12:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เปิดเผยผ่านรายการโทรทัศน์ถึงความคืบหน้าในการแก้ปัญหาหนี้ภาคประชาชนว่า วันนี้ทีมงานอยู่ระหว่างพูดคุยกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และนายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าฯ ธปท. ลงมาดำเนินงานเอง โดยคาดว่าจะเห็นความคืบหน้าภายใน 1 เดือนนี้ เพราะแนวคิดเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว

ในส่วนของการจัดตั้งบริษัทจัดการสินทรัพย์ (Asset Management Company: AMC) ระหว่างรัฐ และธนาคาร นายเอกนิติ กล่าวว่า ในทางปฏิบัติ ตอนมี 2 รูปแบบ คือ 1. ตั้งใหม่ ซึ่งต้องใช้เวลานาน ซึ่งหากไม่ทันในระยะเวลา 4 เดือนก็ไม่มีประโยชน์ และอีกทางเลือกคือ 2. ใช้สิ่งที่มีอยู่แล้ว คือ บริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (SAM) และ บมจ.บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ (BAM) ซึ่งเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ของรัฐที่ธปท. และกระทรวงการคลังถือหุ้น ดังนั้น จึงอาจเป็นทางเลือกที่ทำได้เร็วกว่าเพราะเขามีกลไกอยู่แล้ว ซึ่งในส่วนนี้กระทรวงการคลัง ธปท. สมาคมธนาคารไทยอยู่ระหว่างพูดคุยกัน

ทั้งนี้ โดยหลักการคือรัฐบาลที่แล้วทำโครงการ "คุณสู้เราช่วย" ซึ่งโครงการดังกล่าวไม่ได้ใช้เงินงบประมาณ แต่เป็นเงินจากที่สถาบันการเงินส่งไปให้กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ซึ่งมีเงินเหลืออยู่ประมาณ 2.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งเราสามารถนำเงินบางส่วนมาซื้อหนี้ออกมาจากระบบธนาคาร โดยเบื้องต้นคาดว่าไม่เกิน 1 หมื่นล้านบาท โดยธปท. อยู่ระหว่างช่วยดูตัวเลขอยู่ โดยเมื่อซื้อออกมาแล้ว จะทำเหมือนวิกฤติปี 40 คือซื้อออกมาในราคาต่ำ และจะมาทำโครงการพัฒนาลูกหนี้โดยการเติมเงิน และพัฒนาให้เขาเป็นคนดีด้วย

นายเอกนิติ กล่าวว่า ลูกหนี้ 1 คน ไม่ได้มีหนี้อยู่ที่ธนาคารเดียว และถ้าเป็น NPL จะถูกตามจากหลายที่ เพราะฉะนั้นจึงเป็นที่มาที่ต้องทำเรื่องนี้ เอามารวมศูนย์และดูศักยภาพลูกหนี้ เช่น เงินเดือน 1 หมื่นบาท ต้องผ่อนเดือนละ 3,000-4,000 บาท อย่างไรก็ผ่อนไม่ไหว ก็ถูกตามหนี้ทุกเดือน แต่พอมาอยู่ที่บริษัทจัดการสินทรัพย์ (Asset Management Company: AMC) เราก็จะมาดูศักยภาพว่าเป็นหนี้ที่ไหนมาบ้าง และเอามาจัดระบบ ดูความสามารถว่าจะตัดต้น ลดดอกเบี้ยได้เท่าไร เช่น จากเดิมที่ต้องผ่อนทั้งต้นและดอกเดือนละ 5,000 บาท ก็อาจเหลือเดือนละ 1,000 บาท ก็จะมีเงินเหลือมากขึ้น

ในขณะเดียวกัน ก็ต้องป้องกันปัญหา Moral hazard ด้วย ด้วยการพัฒนาลูกหนี้ให้โชว์วินัยทางการเงิน หลังจากที่ช่วยตัดหนี้ ตัดต้นให้บางส่วน และขยายเวลาชำระหนี้แล้ว ถ้าจ่ายหนี้ตรงชำระ ก็อาจได้ลดดอกเบี้ยต่อ และจะมีคะแนนที่ช่วยให้คนเหล่านี้เข้าถึงสินเชื่อได้อีกครั้งหนึ่ง

เมื่อถามว่าจะซื้อหนี้ออกจากธนาคารโดยมีส่วนลดกี่เปอร์เซ็นต์นั้น นายเอกนิติ กล่าวว่า เป็นราคายุติธรรม และในอดีตเคยทำเรื่องนี้มาแล้วในปี 40 แต่ครั้งนี้คือทำ Gain Loss Sharing คือขาดทุนก็มาแบ่งกัน หรือกำไรก็มาแบ่งกัน โดยมีประเด็นสำคัญคือการช่วยลูกหนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ