สศก.โชว์ตัวเลขสินค้าเกษตร 8 เดือนปีนี้เกินดุล 7 แสนลบ. "ทุเรียน" ครองแชมป์นำทัพตลาดจีนส่งออก

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday October 9, 2025 13:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สศก.โชว์ตัวเลขสินค้าเกษตร 8 เดือนปีนี้เกินดุล 7 แสนลบ.

นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เผยสถานการณ์การค้าสินค้าเกษตรของไทยในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2568 (ม.ค.-ส.ค.) มีมูลค่าการค้าสินค้าเกษตร (พิกัด 01-24 รวมยางพารา พิกัด 4001) รวมทั้งสิ้น 1,661,483 ล้านบาท หดตัว 5.17% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็น มูลค่าการส่งออก 1,183,482 ล้านบาท หดตัว 6.01% และมูลค่าการนำเข้า 478,001 ล้านบาท หดตัว 3.01%

"แม้มูลค่าการค้าจะหดตัว แต่ไทยยังคงเกินดุลการค้าสินค้าเกษตรถึง 705,481 ล้านบาท แสดงให้เห็นถึงศักยภาพการแข่งขันของสินค้าเกษตรไทยในตลาดโลก" นายฉันทานนท์ กล่าว

เมื่อพิจารณาสินค้าเกษตรที่มูลค่าส่งออกสูงสุด 5 อันดับแรก พบว่า

สศก.โชว์ตัวเลขสินค้าเกษตร 8 เดือนปีนี้เกินดุล 7 แสนลบ.

- ทุเรียนสด ยังคงเป็นแชมป์อันดับหนึ่งด้วยมูลค่าสูงถึง 118,702 ล้านบาท แม้จะหดตัวลงเล็กน้อยที่ 1.40% สะท้อนถึงความต้องการที่แข็งแกร่งในตลาดจีนที่เป็นตลาดหลัก

- อันดับ 2 ข้าว มูลค่า 86,116 ล้านบาท ซึ่งเผชิญกับอัตราการหดตัวสูงถึง 36.94%

- อันดับ 3 ยางธรรมชาติ มูลค่า 68,951 ล้านบาท หดตัว 10.65%

- อันดับ 4 ไก่แปรรูป มูลค่า 68,353 ล้านบาท หดตัว 1.44% ฃ

- อันดับ 5 อาหารสุนัขหรือแมว มูลค่า 63,550 ล้านบาท ซึ่งเป็นสินค้าที่ขยายตัวได้ 0.14% สวนทางกับภาพรวม

ส่วนสินค้านำเข้า 5 อันดับแรก ส่วนใหญ่เป็นวัตถุดิบที่ใช้ในการเลี้ยงสัตว์และแปรรูปเพื่อส่งออก ได้แก่ ถั่วเหลือง มูลค่า 42,919 ล้านบาท หดตัว 8.68% กากน้ำมัน และกากแข็งอื่นๆ ที่ได้จากการสกัดน้ำมันถั่วเหลือง มูลค่า 26,571 ล้านบาท หดตัว 22.69% อาหารปรุงแต่งอื่น ๆ มูลค่า 22,053 ล้านบาท หดตัว 2.73% ข้าวสาลีและเมสลิน มูลค่า 21,538 ล้านบาท หดตัว 7.63% และมันสำปะหลัง มูลค่า 21,021.69 ล้านบาท ขยายตัว 8.07% ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการแปรรูปเป็นอาหารสุนัขหรือแมวส่งออกด้วย

สศก.โชว์ตัวเลขสินค้าเกษตร 8 เดือนปีนี้เกินดุล 7 แสนลบ.

สินค้าเกษตรไทยยังคงมีโอกาสในตลาดโลกต่อเนื่อง โดยเฉพาะทุเรียนสด ที่แสดงให้เห็นถึงความต้องการที่แข็งแกร่งในตลาดจีน และสินค้าแปรรูปมูลค่าเพิ่มสูงอย่าง อาหารสุนัขหรือแมว และ ไก่แปรรูป ยังคงรักษาความแข็งแกร่งในตลาดสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป ซึ่งสะท้อนถึงการยอมรับในคุณภาพและมาตรฐานของสินค้าไทย นอกจากนี้ความได้เปรียบที่สำคัญคือความหลากหลายของสินค้าและตลาดส่งออก และความสำเร็จในการเจรจาลดภาษีกับสหรัฐฯ เหลือ 19% มีผลใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.68 จะช่วยรักษาขีดความสามารถการแข่งขันในตลาดของสหรัฐฯ ได้

อย่างไรก็ตาม สินค้าเกษตรไทยยังคงเผชิญกับความผันผวนและความท้าทายหลายด้าน โดยเฉพาะปัจจัยภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น สภาพอากาศที่แปรปรวน ต้นทุนการผลิตที่สูง การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานโลก สินค้าส่งออกสำคัญบางรายการเผชิญแรงกดดันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะข้าว ที่ต้องเผชิญการแข่งขันรุนแรงจากอินเดียและเวียดนาม รวมถึงค่าเงินบาทที่แข็งค่า ทำให้การส่งออกลดลงค่อนข้างมาก ขณะที่ยางธรรมชาติก็เผชิญแรงกดดันจากราคาตลาดโลกที่ผันผวนและอุปสงค์จากตลาดต่างประเทศชะลอตัว

ด้าน น.ส.กาญจนา ขวัญเมือง รองเลขาธิการ สศก. กล่าวว่า เมื่อพิจารณาสถิติการค้ากับประเทศคู่ค้าสำคัญ พบว่าไทยยังคงเกินดุลการค้ากับคู่ค้าส่วนใหญ่ โดยมีรายละเอียดที่สำคัญ ดังนี้ ไทยและอาเซียน มีมูลค่าการค้าสินค้ารวมสูงสุดที่ 393,390 ล้านบาท แม้จะลดลง 5.81% แต่ไทยยังเกินดุลการค้า 133,264 ล้านบาท โดยมีน้ำตาลที่ได้จากอ้อย และ เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ เป็นสินค้าส่งออกสำคัญ ขณะที่การค้ากับจีน มีมูลค่ารวม 380,177 ล้านบาท ลดลง 1.89% แต่ไทยยังเกินดุลสูงถึง 246,101 ล้านบาท โดยมีทุเรียนสด และยางธรรมชาติ เป็นสินค้าส่งออกหลัก

สำหรับสหรัฐฯ มีมูลค่าการค้า 151,812 ล้านบาท ซึ่งเป็นคู่ค้าที่เพิ่มขึ้น 2.57% โดยไทยเกินดุล 91,310 ล้านบาท มีอาหารสุนัขหรือแมว และ ข้าว เป็นสินค้าทำเงิน และการค้ากับญี่ปุ่นมีมูลค่า 119,383 ล้านบาท ลดลง 5.52% แต่ไทยยังเกินดุลสูงถึง 97,535 ล้านบาท นำโดยไก่ปรุงแต่ง และเนื้อไก่และเครื่องในแช่แข็ง

การค้ากับสหภาพยุโรป มีมูลค่า 138,220 ล้านบาท ลดลง 4.51% แต่ไทยยังคงเกินดุล 68,112 ล้านบาท โดยมีไก่ปรุงแต่ง และอาหารสุนัขหรือแมว เป็นสินค้าส่งออกสำคัญ นอกจากนี้ การค้ากับ เอเชียใต้ มูลค่า 69,869 ล้านบาท และ รัสเซีย มูลค่า 5,469 ล้านบาท ยังมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น ที่ 5.49% และ 12.15% ตามลำดับ และไทยยังคงเกินดุลการค้ากับทั้งสองภูมิภาค โดยมีน้ำมันปาล์มดิบ ยางธรรมชาติ และ ปลาทูนากระป๋อง สับปะรดปรุงแต่ง เป็นสินค้าส่งออกสำคัญตามลำดับ

สำหรับคู่ค้าอื่นๆ เช่น ตะวันออกกลางและแอฟริกา แม้มูลค่าการค้าโดยรวมลดลง แต่ไทยยังคงเกินดุลการค้าได้ในระดับสูง สำหรับกลุ่มประเทศที่ไทยขาดดุล ได้แก่ ทวีปออสเตรเลีย/โอเชียเนีย ทวีปลาตินอเมริกา และสมาคมการค้าเสรียุโรป (EFTA) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าวัตถุดิบและอาหารทะเลแช่แข็งเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมแปรรูป

แนวโน้มการส่งออกสินค้าเกษตรของไทยในช่วงที่เหลือของปี 2568 มีลักษณะผสมผสาน โดยสินค้าหลักบางรายการที่ชะลอตัว เช่น ข้าว มีแนวโน้มลดลงอย่างชัดเจนจากปัจจัยการแข่งขันด้านราคา ส่วน ยางธรรมชาติ ยังเผชิญแรงกดดันจากเศรษฐกิจจีนและอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าที่ใช้วัตถุดิบลดลง ในขณะที่สินค้าที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น เช่น อาหารสุนัขหรือแมวและ อาหารปรุงแต่งอื่น ๆ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในคุณภาพและมาตรฐานของสินค้าเกษตรไทย รวมถึงตลาดใหม่ ๆ ที่เปิดรับสินค้าไทยเพิ่มขึ้น การส่งออกโดยรวมแล้วไทยยังมีโอกาสในการขยายการส่งออกผ่านการสร้างมูลค่าเพิ่ม การรักษามาตรฐานคุณภาพ และการใช้ประโยชน์จากข้อตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) ให้เกิดประโยชน์สูงสุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ