ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 32.56 ระหว่างวันผันผวน คาดกรอบพรุ่งนี้ 32.40-32.65

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday October 16, 2025 17:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 32.56 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจาก เปิดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 32.50 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินภูมิภาคเคลื่อนไหวแบบผสม ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 32.42-32.62 บาท/ดอลลาร์

"วันนี้บาทแกว่งตัวอย่างไร้ทิศทาง และผันผวนไปตามราคาทองใสตลาดโลก ขณะที่ค่าเงินในภูมิภาคเคลื่อนไหวแบบผสม มีทั้ง ปรับตัวอ่อนค่าและแข็งค่า" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 32.40-32.65 บาท/ดอลลาร์

โดยคืนนี้ตลาดรอดูการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ดัชนีการผลิตเดือนต.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ดัชนี ตลาดที่อยู่อาศัยเดือนก.ย.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB), สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA), ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ย., ยอดค้าปลีกเดือนก.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, สต็อกสินค้าคงคลัง ภาคธุรกิจเดือนส.ค.

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 151.29 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 150.58 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1650 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้านี้ที่ระดับ 1.1657 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ 1,291.46 จุด เพิ่มขึ้น 4.77 จุด (+0.37%) มูลค่าซื้อขาย 33,202.91 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,998.10 ล้านบาท
  • ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินเศรษฐกิจไทยปีนี้มีความเป็นไปได้ที่จะโตราว 2-
2.2% โดยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ในช่วงไตรมาส 4 จะส่งผลให้จีดีพีขยายตัวได้ราว 0.8-1.1%
  • หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด (GCAP GOLD) เผยภาพรวมราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มเชิงบวก เนื่อง
จากราคายังคงเคลื่อนไหวเหนือระดับสำคัญที่ $4,000 และสามารถรักษาทิศทางในกรอบขาขึ้นได้อย่างมั่นคง และคาดว่ามีโอกาสที่ราคาจะ
ดีดตัวขึ้นต่อสู่แนวต้านโซน $4,200-4,250 (ราคาทองคำไทยประมาณ 64,70065,300 บาท)
  • สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เตรียมนัดประชุมหารือความร่วมมือนายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่ง
ประเทศไทย (ธปท.) ในวันที่ 21 ต.ค.นี้ เกี่ยวกับมาตรการรับมือผลกระทบจากภาษีสหรัฐฯ และสงครามการค้า, มาตรการส่งเสริม
สภาพคล่องทางการเงินและแก้ปัญหาหนี้ผู้ประกอบการ SMEs และ ความกังวลที่มีต่อปัญหาเงินบาทแข็งค่า
  • นาโอกิ ทามูระ กรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งเป็นสายเหยี่ยว ออกมาเรียกร้องให้ BOJ
เดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้เข้าใกล้ระดับที่เป็นกลางต่อเศรษฐกิจ (Neutral Interest Rate) มากขึ้น เนื่องจากแรงกด
ดันด้านเงินเฟ้อมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
  • รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายกิจการเอเชียแปซิฟิกของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น
(BOJ) จำเป็นต้องเดินหน้าผ่อนคลายนโยบายการเงิน ส่วนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยควรดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากความ
ไม่แน่นอนด้านการค้าทั่วโลกมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจญี่ปุ่น
  • รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ แสดงความเชื่อมั่นว่า สกุลเงินเยนจะอยู่ในระดับที่เหมาะสมและสอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานทาง
เศรษฐกิจของญี่ปุ่น หากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ยังคงดำเนินนโยบายการเงินในทิศทางที่ถูกต้อง
  • เจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เผยการปิดหน่วยงานรัฐบาลกลางสหรัฐฯ หรือชัตดาวน์ที่ดำเนินมาแล้วสองสัปดาห์อาจ
ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ สูญเสียผลผลิตสูงสุดถึงสัปดาห์ละ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยแก้ไขข้อมูลก่อนหน้านี้ รมว.คลังสหรัฐฯ ประเมินความ
เสียหายสูงสุดไว้ถึงวันละ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์
  • ผลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจจีนในไตรมาส 3 ปี 2568 มีแนวโน้มขยายตัวในอัตรา
อ่อนแอที่สุดในรอบหนึ่งปี โดยคาดว่าการชะลอตัวจะรุนแรงขึ้นและอาจกระทบต่อเป้าหมายการเติบโตของรัฐบาล ซึ่งสร้างแรงกดดันให้ปักกิ่ง
ต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ท่ามกลางความเชื่อมั่นที่สั่นคลอนจากผลกระทบของสงครามการค้ากับสหรัฐฯ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ