นายวินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยภาวะเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนก.ย. 68 ว่า เศรษฐกิจภูมิภาค มีปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชน โดยเฉพาะ กทม. และปริมณฑล และภาคตะวันออก ขณะที่การท่องเที่ยวขยายตัวได้ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นในทุกภูมิภาค
- ภาคเหนือ
มีปัจจัยสนับสนุนจากการจับจ่ายใช้สอยเพื่อการบริโภค เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการ และการท่องเที่ยวที่ขยายตัวได้ อีกทั้งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้น โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ และจำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ขยายตัวที่ 6.4% และ 17.0% ต่อปี ตามลำดับ ขณะที่จำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่หดตัวที่ -6.6% ต่อปี แต่ขยายตัวที่ 6.6% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล อย่างไรก็ตาม รายได้เกษตรกรหดตัวที่ -28.3% ต่อปี ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 51.4 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 50.7

เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ -42.9% ต่อปี แต่ขยายตัวที่ 5.3% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล อย่างไรก็ตาม จำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ -57.1% ต่อปี ทั้งนี้ เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการขยายตัวที่ 160.6% ต่อปี โดยเป็นการลงทุนในโรงงานผลิตเครื่องดื่มน้ำผลไม้อัดลม น้ำผัก และผลไม้ น้ำดื่ม และน้ำแร่ในจังหวัดลำพูน เป็นสำคัญ
ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 82.4 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 82.7 เครื่องชี้ภาคการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวที่ 10.4% และ 13.5% ต่อปี ตามลำดับ
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มีปัจจัยสนับสนุนจากการจับจ่ายใช้สอยเพื่อการบริโภค เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการ และการท่องเที่ยวที่ขยายตัวได้ อีกทั้งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้น โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ และจำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ขยายตัวที่ 6.9% และ 2.4% ต่อปี ตามลำดับ ขณะที่จำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่หดตัวที่ -6.1% ต่อปี แต่ขยายตัวที่ 10.7% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล อย่างไรก็ตาม รายได้เกษตรกรหดตัวที่ -15.1% ต่อปี ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 53.8 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 53.0
เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ -47.3% ต่อปี แต่ขยายตัวที่ 4.0% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล อย่างไรก็ตาม จำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ -69.8% ต่อปี ทั้งนี้ เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการขยายตัวที่ 14.5% ต่อปี โดยเป็นการลงทุนในโรงงานผลิตไฟฟ้าโดยใช้แสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน ในจังหวัดขอนแก่น เป็นสำคัญ
ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 65.9 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 65.9 เครื่องชี้ภาคการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวที่ 2.9% และ 3.9% ต่อปี ตามลำดับ
- กทม. และปริมลฑล
มีปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชนการจับจ่ายใช้สอยเพื่อการบริโภค เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการ และการท่องเที่ยวที่ขยายตัวได้ อีกทั้งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้น โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ จำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ขยายตัวที่ 11.8% 15.2% และ 13.4% ต่อปี ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม รายได้เกษตรกรหดตัวที่ -23.6% ต่อปี ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 49.5 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 49.0
เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ -26.2% ต่อปี แต่ขยายตัวที่ 51.7% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล อย่างไรก็ตาม จำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ -22.0% ต่อปี และเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการหดตัว
ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 96.1 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 92.3 เครื่องชี้ภาคการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนหดตัวที่ -0.9% และ -4.0% ต่อปี ตามลำดับ
- ภาคตะวันออก
มีปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัวได้ อีกทั้งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้น โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ จำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ขยายตัวที่ 19.8% 21.0% และ 11.2% ต่อปี ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม รายได้เกษตรกรหดตัวที่ -11.2% ต่อปี ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 53.1 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 52.4
เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ -59.2% ต่อปี แต่ขยายตัวที่ 32.3% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล อย่างไรก็ตาม จำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ -32.1% ต่อปี ทั้งนี้ เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการหดตัว
ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 89.0 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 89.4 เครื่องชี้ภาคการบริการ สะท้อนจากรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนหดตัวที่ -7.2% ต่อปี แต่ขยายตัวที่ 6.5% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้เยี่ยมเยือนหดตัวที่ -1.5% ต่อปี
- ภาคกลาง
มีปัจจัยสนับสนุนจากเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการที่ขยายตัว อีกทั้งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้น โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ และจำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ขยายตัวที่ 1.4% และ 3.0% ต่อปี ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม จำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ และรายได้เกษตรกรหดตัวที่ -1.8% และ -17.9% ต่อปี ตามลำดับ ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 49.9 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 49.3
เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ -35.4% และ -72.8% ต่อปี ตามลำดับ แต่ขยายตัวที่ 20.9% และ 6.1% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล ตามลำดับ ทั้งนี้ เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการขยายตัวที่ 379.3% ต่อปี โดยเป็นการลงทุนในโรงงานผลิตอุปกรณ์หรือผลิตภัณฑ์โลหะสำหรับงานขุดเจาะ และให้บริการอบชุบแข็งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นสำคัญ
ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 96.1 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 92.3 เครื่องชี้ภาคการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวที่ 0.8% และ 2.1% ต่อปี ตามลำดับ
- ภาคใต้
การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวเล็กน้อย การลงทุนภาคเอกชนหดตัวชะลอลง อย่างไรก็ตาม ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้น โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ และจำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ขยายตัวที่ 1.0% และ 9.0% ต่อปี ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม จำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ และรายได้เกษตรกรหดตัวที่ -7.3% และ -11.1% ต่อปี ตามลำดับ ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 50.0 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 49.2
เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ -27.8% ต่อปี แต่ขยายตัวที่ 21.7% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล อย่างไรก็ตาม จำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ -28.6% ต่อปี ทั้งนี้ เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการหดตัว
ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 82.5 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 78.7 เครื่องชี้ภาคการบริการ สะท้อนจากรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนหดตัวที่ -7.5% ต่อปี แต่ขยายตัวที่ 2.3% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้เยี่ยมเยือนหดตัวที่ -1.6% ต่อปี
- ภาคตะวันตก
การบริโภคภาคเอกชน และการลงทุนภาคเอกชนหดตัว อย่างไรก็ตาม ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้น โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่จำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ จำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ และรายได้เกษตรกรหดตัวที่ -10.5% -13.9% -10.3% และ -14.0% ต่อปี ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 49.9 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ระดับ 49.3
เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ -39.1% และ -61.8% ต่อปี ตามลำดับ อีกทั้งเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการหดตัว
ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 96.1 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 92.3 เครื่องชี้ภาคการบริการ สะท้อนจากรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวที่ 2.4% ต่อปี อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้เยี่ยมเยือนหดตัวที่ -1.2% ต่อปี