นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 32.28 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากเปิด ตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 32.35 บาท/ดอลลาร์
โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 32.28 - 32.50 บาท/ดอลลาร์ เงินบาทวันนี้ยังไม่มีปัจจัยใหม่ เคลื่อนไหวนิ่ง ๆ เช่นเดียวกับสกุลเงินส่วนใหญ่ในภูมิภาค เนื่องจากตลาดสหรัฐฯ ปิดทำการ
อย่างไรก็ดี คืนนี้ ต้องรอติดตามการประชุมผ่านงบประมาณชั่วคราวของสหรัฐฯ ด้วย
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 32.20 - 32.50 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยน อยู่ที่ระดับ 154.33/34 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 154.38 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1565/1566 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.1540 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,300.47 จุด ลดลง 5.79 จุด (-0.44%) มูลค่าการซื้อขาย 32,340.64 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 2,460.10 ลบ.(SET+MAI)
- กระทรวงการคลัง ธปท. และภาคสถาบันการเงิน ร่วมกันดำเนินโครงการแก้ปัญหาหนี้เสียผ่านกลไกการซื้อหนี้รายย่อยของ
บริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) ภายใต้ชื่อ "ปิดหนี้ไว ไปต่อได้" การช่วยเหลือในครั้งนี้ เป็นมาตรการเฉพาะกิจที่จะดำเนินการเพียงครั้ง
เดียว โดยเน้นหนี้เสียที่ไม่มีหลักประกัน ซึ่งกลุ่มเป้าหมาย คือ ลูกหนี้รายย่อยที่มีภาระหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ไม่เกิน
100,000 บาท/ราย ณ วันที่ 30 ก.ย. 68
- บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) ระบุว่า ทองคำไตรมาส 4/68 ยังรักษาเทรนด์ขาขึ้น คง
เป้าหมาย 4,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากปัจจัยสนับสนุนจากการเข้าซื้อของธนาคารกลางทั่วโลกยังแข็งแกร่ง จากกระแสลดการพึ่งพา
ดอลลาร์สหรัฐฯ ล่าสุดพบธนาคารกลางจีนเข้าซื้อเพิ่มอีกในเดือน ต.ค. เป็นการซื้อติดต่อกัน 12 เดือน พร้อมปัจจัยหนุนสำคัญจากอัตรา
ดอกเบี้ยขาลงของเฟด และการยุติการทำ QT เป็นแรงผลักดันราคาทองคำกลับเข้าสู่ช่วงขาขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงต้นปีหน้า
- กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เผยสถานการณ์ท่องเที่ยวล่าสุด ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติสะสมตั้งแต่
วันที่ 1 ม.ค.-9 พ.ย.68 ทั้งสิ้น 27,587,845 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 1,275,522 ล้าน
บาท โดยจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ มาเลเซีย 3.97 ล้านคน รองลงมา คือ จีน 3.8 ล้านคน อินเดีย 2 ล้านคน รัส
เซีย 1.4 ล้านคน และเกาหลีใต้ 1.3 ล้านคน
- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า รัฐบาลอาจต้องจ่ายเงินคืนมากกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็น
เงินที่ได้จากภาษีศุลกากร และการลงทุน หากศาลสูงสุดตัดสินว่าภาษีเหล่านี้ผิดกฎหมาย ซึ่งทรัมป์มองว่า หากเกิดขึ้นจะถือเป็นภัยพิบัติด้าน
ความมั่นคงของชาติ
- วุฒิสภาสหรัฐฯ มีมติผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวแล้ว โดยร่างกฎหมายฉบับนี้ จะช่วยให้หน่วยงานของรัฐบาลมีงบ
ประมาณใช้จ่าย และนำไปสู่การยุติการปิดหน่วยงานของรัฐบาล หรือชัตดาวน์ ที่ยืดเยื้อยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ
- ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ที่จะมีการรายงานในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือนต.ค.
และ ADP รายงานตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนรายสัปดาห์