กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) เผยมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า เงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 32.20-32.70 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดอ่อนค่าที่ 32.47 บาท/ดอลลาร์ โดยการซื้อขายยังคงอยู่ในกรอบแคบ ๆ ระหว่าง 32.38-32.52 บาท/ดอลลาร์ เงินดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงินสำคัญ ขณะที่ข้อมูลจ้างงานเดือนกันยายนของสหรัฐฯ สะท้อนภาพที่ผสมผสาน โดยตำแหน่งจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นมากกว่าคาด แต่อัตราการว่างงานเดือนก.ย. ขยับขึ้นเป็น 4.4% จาก 4.3% ทำให้นักลงทุนไม่แน่ใจเกี่ยวกับโอกาสการปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในเดือนธ.ค.
ด้านเงินเยนร่วงลงต่อเนื่องท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศ โดยรัฐบาลญี่ปุ่นประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 21.3 ล้านล้านเยน ซึ่งจะมีการออกพันธบัตรเพิ่มเติมเพื่อเป็นแหล่งเงินทุน ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวพุ่งขึ้น บ่งชี้ความกังวลเกี่ยวกับการใช้จ่ายภาครัฐ ขณะที่การแทรกแซงตลาดอัตราแลกเปลี่ยนด้วยวาจาครั้งล่าสุดยังไม่สามารถหยุดการอ่อนค่าของเงินเยนได้ ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทย 3,515 ล้านบาท แต่ซื้อพันธบัตรสุทธิ 1,958 ล้านบาท
สำหรับในสัปดาห์นี้ นักลงทุนจะติดตามข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯก่อนเทศกาลขอบคุณพระเจ้า โดยจะมีรายงานยอดค้าปลีกเดือนก.ย. ซึ่งคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯยังเติบโตแข็งแกร่งในไตรมาส 3 ก่อนที่การปิดหน่วยงานรัฐบาลจะกดดันการขยายตัวในไตรมาส 4 นอกจากนี้ ความเห็นล่าสุดจากรองประธานเฟด ได้เปิดช่องไว้สำหรับการลดดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 9-10 ธ.ค. อนึ่ง เรามองว่ากรณีที่เฟดตัดสินใจคงดอกเบี้ยไว้ในเดือนธ.ค. จะเป็นเพียงการหยุดพักชั่วคราว ไม่ใช่การสิ้นสุดวัฏจักรดอกเบี้ยขาลง
สำหรับสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศ จีดีพีไทยไตรมาส 3/68 เติบโต 1.2% y-o-y แต่หดตัว 0.6% q-o-q ซึ่งเป็นการลดลงรายไตรมาสครั้งแรกในรอบเกือบสามปี สะท้อนการส่งออกชะลอ การใช้จ่ายภาครัฐหดตัว และภาคท่องเที่ยวอ่อนแรง ขณะที่การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนประคองจีดีพีได้เพียงเล็กน้อย อย่างไรก็ดี มาตรการภาครัฐจะช่วยเศรษฐกิจฟื้นตัวได้บ้างในไตรมาส 4/68
โดยวิจัยกรุงศรี ประเมินการเติบโตปี 68 ที่ 2.1% ขณะที่ปี 69 มีแนวโน้มชะลอลงจากผลของภาษีศุลกากรและความไม่แน่นอนทางการเมือง เพิ่มโอกาสที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะลดดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. นี้ เพื่อหนุนอุปสงค์ภายในและบรรเทาภาระทางการเงินของภาคเอกชน