ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 31.61 แข็งค่าสุดรอบ 3 เดือนนำภูมิภาคตามทิศทางราคาทอง คาดกรอบต้นสัปดาห์หน้า 31.50-31.70

ข่าวเศรษฐกิจ Friday December 12, 2025 17:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 31.61 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจาก ช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 31.63 บาท/ดอลลาร์

ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 31.61-31.70 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทแข็งค่านำสกุลเงินอื่นในภูมิภาค และเป็น การแข็งค่าสุดในรอบ 3 เดือน จากผลของราคาทองคำตลาดโลกที่ปรับสูงขึ้น ขณะที่ปัจจัยการเมืองในประเทศนั้น ไม่ได้ส่งผลต่อค่าเงินบาท เท่าใดนัก

"บาทวันนี้แข็งค่านำภูมิภาค และแข็งค่าสุดในรอบ 3 เดือน การแข็งค่าเป็นผลจากที่ราคาทองโลกปรับเพิ่มขึ้น เงินบาทไม่ได้ ตอบรับปัจจัยการเมืองในประเทศเท่าไรนัก เป็นไปตามทิศทางราคาทองมากกว่า" นักบริหารเงินระบุ

สัปดาห์หน้า มีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่ตลาดติดตาม เช่น การจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ, การประชุมธนาคาร กลางญี่ปุ่น (BOJ) รวมทั้งในบ้านเราเอง คือ การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)

นักบริหารเงิน คาดว่า ต้นสัปดาห์หน้า เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.50-31.70 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 155.88 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้า ที่ระดับ 155.67 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1731 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้า ที่ระดับ 1.1743 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ 1,254.10 จุด เพิ่มขึ้น 0.56 จุด (+0.04%) มูลค่าซื้อขาย 36,693.42 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,252.93 ล้านบาท
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า การยุบสภา ส่งผลให้การเมืองไทยเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่าน และรัฐบาลรักษาการมีอำนาจจำกัด
อย่างไรก็ดี สำหรับผลกระทบทางเศรษฐกิจ แม้จะยุบสภาเร็วกว่าที่คาดไว้ราวครึ่งเดือน แต่ไม่ได้เปลี่ยนมุมมองเดิม โดยยังคงประมาณการ
เศรษฐกิจไทยปี 69 ไว้ที่ 1.6% แต่ GDP ไทยในไตรมาส 1/69 มีแนวโน้มขยายตัวชะลอลงจากเดิม เพราะขาดแรงหนุนจากมาตรการ
กระตุ้นเศรษฐกิจ
  • ประธานกรรมการหอการค้าไทย ระบุ เข้าใจนายกฯ ถึงความจำเป็นทางการเมืองที่ต้องประกาศยุบสภา แต่เรียกร้องให้
เร่งดำเนินการจัดการเลือกตั้ง ตามกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้มีรัฐบาลชุดใหม่ที่มีอำนาจเต็มโดยเร็ว เนื่องจากปัจจุบันยังมี
กฎหมายสำคัญ และกรอบการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ที่รอการพิจารณาและผ่านสภาฯ ซึ่งล้วนแต่มีความสำคัญต่อขีดความสามารถการ
แข่งขันของประเทศ
  • SCB Financial Markets ประเมินผลกระทบต่อค่าเงินบาท หลังยุบสภา ว่าในช่วง 1-2 เดือนนี้ จะมีความไม่แน่นอน
ทางการเมืองที่อาจทำให้บาทอ่อนค่าขึ้นได้ในบางช่วง และตามสถิติ คือบาทจะกลับมาอ่อนค่าขึ้นได้ในเดือน ม.ค. ดังนั้น มีโอกาสสูงที่เงิน
บาทอาจอ่อนค่ากลับขึ้นไปใกล้เคียง 32.00 บาท/ดอลลาร์
  • รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย โครงการ "คนละครึ่ง พลัส" เฟส 2 จำเป็นต้องหยุดไว้ก่อน เนื่องจากมีข้อจำกัด
ของกฎหมายเลือกตั้ง ทำให้ไม่สามารถที่จะดำเนินโครงการได้ ทั้งที่เดิมรัฐบาลตั้งใจนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม ครม.ในสัปดาห์
หน้า (16 ธ.ค.)
  • ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขานิวยอร์ก เปิดเผยแผนการซื้อพันธบัตรมูลค่ารวมราว 5.44 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงวัน
ที่ 12 ธ.ค. 68-14 ม.ค.69 เพื่อบริหารสภาพคล่องในตลาด และช่วยให้เฟดรักษาการควบคุมระบบเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ
  • อินโดนีเซีย ตั้งเป้าที่จะยุติการนำเข้าน้ำมันดีเซลภายในปี 2569 ขณะที่รัฐบาลอินโดนีเซีย เร่งโครงการไบโอดีเซล และ
เพิ่มกำลังการกลั่นในประเทศ ซึ่งถือเป็นย่างก้าวที่สำคัญในการเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงาน และลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงจากต่าง
ประเทศ
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อออกกฎระเบียบเดียวในการกำกับดูแลปัญญา
ประดิษฐ์ (AI) ซึ่งคำสั่งดังกล่าวเป็นการสกัดอำนาจของรัฐต่าง ๆ ในการออกกฎระเบียบในเรื่องนี้ โดยเฉพาะรัฐที่เป็นฐานเสียงของ
พรรคเดโมแครต
  • เศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร (UK) หดตัวลงอย่างเหนือความคาดหมายในช่วงเดือน ส.ค.-ต.ค.68 โดยหดตัว 0.1%
สถานการณ์ดังกล่าว เพิ่มน้ำหนักให้แก่การคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
  • ธนาคารกลางจีน (PBOC) เปิดเผยว่า ในเดือนพ.ย.68 ธนาคารพาณิชย์ของจีน มียอดการปล่อยสินเชื่อใหม่จำนวน 3.9

แสนล้านหยวน (ประมาณ 5.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ