ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์หน้า (15-19 ธ.ค.) ที่ระดับ 31.40-32.00 บาท/ดอลลาร์ จากปิดตลาดในวันศุกร์ที่ 12 ธ.ค.ที่ 31.55 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทแข็งค่าผ่านระดับ 31.60 บาท/ดอลลาร์ไปแตะระดับแข็งค่าสุดในกรอบเกือบ 4 ปีครึ่ง (นับตั้งแต่ 22 มิ.ย. 64) ที่ 31.55 บาท/ดอลลาร์ สอดคล้องกับทิศทางแข็งค่าของสกุลเงินเอเชีย
ขณะที่เงินดอลลาร์เผชิญแรงขาย หลังท่าทีจากประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สะท้อนความกังวลต่อสัญญาณอ่อนแอของตลาดแรงงานสหรัฐฯ ซึ่งกระตุ้นให้ตลาดคาดการณ์ว่า เฟด อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีกในปี 2569 ต่อเนื่องจากที่ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมาที่กรอบ 3.50-3.75% ในการประชุม FOMC เมื่อวันที่ 9-10 ธ.ค. ที่ผ่านมา นอกจากนี้ เงินบาทยังมีปัจจัยบวกจากการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลกในระหว่างสัปดาห์ด้วยเช่นกัน
ในสัปดาห์หน้าปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 17 ธ.ค., ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ทิศทางฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ ทิศทางค่าเงินเอเชียและราคาทองคำในตลาดโลก ปัจจัยการเมืองในประเทศ รวมถึงสถานการณ์ระหว่างไทย-กัมพูชา
ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดค้าปลีกเดือนต.ค. ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงาน ดัชนีราคาผู้บริโภค ยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ย. ดัชนี PMI และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นสำหรับเดือนธ.ค. รวมถึงตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนและจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
นอกจากนี้ ตลาดยังรอติดตามผลการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) วันที่ 18 ธ.ค., ธนาคารกลางยุโรป (ECB) วันที่ 18 ธ.ค., และ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) วันที่ 18-19 ธ.ค., ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนพ.ย. ของยูโรโซน และข้อมูลเศรษฐกิจเดือนพ.ย. ของจีน อาทิ การผลิตภาคอุตสาหกรรม ยอดค้าปลีก การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรและอัตราการว่างงาน