ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 31.43 แข็งค่าต่อเนื่องนำค่าเงินภูมิภาค คาดกรอบพรุ่งนี้ 31.30-31.60

ข่าวเศรษฐกิจ Monday December 15, 2025 17:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 31.43 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่เปิด ตลาดที่ระดับ 31.53 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 31.40-31.60 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทแข็งค่าสุดเมื่อเทียบกับสกุลเงินส่วนใหญ่ในภูมิภาค โดยเงินบาทเคลื่อนไหวตามราคาทองคำเป็นหลัก ประกอบกับยังคง ย่อยข่าวที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ลดดอกเบี้ย ที่หนุนให้เงินบาทแข็งค่า

"เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 31.43 บาท/ดอลลาร์ ถือว่าแข็งค่าสุดตั้งแต่เดือนมิ.ย. 64 หรือในรอบ 4 ปีครึ่ง ทั้งนี้ แข็งค่า กว่าเงินบาทในเดือนก.ย. 68 ที่ย่อลงไปสุดอยู่ที่ 31.58 บาท/ดอลลาร์" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน ประเมินว่า เงินบาทวันพรุ่งนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.30-31.60 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 154.99 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 155.72 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1740 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1740 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ 1,273.40 จุด เพิ่มขึ้น 19.30 จุด (+1.54%) มูลค่าซื้อขาย 33,093.33 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,088.25 ล้านบาท
  • รมว.คลัง กล่าวถึงสถานการณ์การแข็งค่าของเงินบาทขณะนี้ว่า ได้หารือกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
อย่างใกล้ชิด และเห็นว่าเป็นประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญมากขึ้น แม้จะเข้าใจว่าเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของนโยบายการเงิน ซึ่งต้องมีความเป็น
อิสระ แต่ในสภาพเศรษฐกิจขณะนี้จะต้องมีการทำงานที่ประสานกันมากขึ้น เพราะเห็นว่าเงินบาทที่แข็งค่ามากเกินไปจะส่งผลกระทบกับ
เศรษฐกิจ และเศรษฐกิจไทยคงรับไม่ได้อย่างแน่นอน แม้จะต้องยอมรับว่าการแข็งค่าของเงินบาทส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเงินโลกที่
ผันผวน จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งส่งผลทำให้เงินไหลจากที่ต่ำไปสู่ที่สูง
  • ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท. ได้สั่งการให้สถาบันการเงิน
(สง.) เพิ่มความเข้มงวดธุรกรรมขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าของกลุ่มผู้ค้าทองคำ ซึ่งอาจส่งผลเพิ่มความผันผวนของค่าเงินบาท โดย
ให้สถาบันการเงิน ต้องเรียกตรวจหลักฐานการขายทองกับคู่ค้าต่างประเทศจากร้านทองทุกธุรกรรม
  • รมว.คลัง คาดเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4/68 ไม่ติดหล่ม สามารถขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่า 1% และทั้งปี 68 มั่นใจว่า
เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่า 2% จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ ที่รัฐบาลได้เร่งผลักดันออกมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เข้ามา
เป็นรัฐบาล ทั้งโครงการคนละครึ่ง พลัส การเติมเงินผ่านบัตรสวัสดิการ การแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน และมาตรการ Thailand Fast
Pass เพื่อสนับสนุนให้เกิดการลงทุน 4.7 แสนล้านบาท รวมถึงการอนุมัติโครงการลงทุน 1.6 แสนล้านบาท จะเป็นปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนให้
เศรษฐกิจไทยเติบโตได้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีนี้ จนถึงปีถัด ๆ ไป
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 17 ธ.ค. 68 ซึ่งเป็นการ
ประชุมครั้งสุดท้ายของปีนี้ มีแนวโน้มที่ กนง. จะมีมติไม่เป็นเอกฉันท์ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% จากปัจจุบัน มาอยู่ที่ระดับ
1.25% เพื่อรับมือกับความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่เพิ่มสูงขึ้น
  • ที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติเห็นชอบร่างแผนการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.)
ตามที่สำนักงาน กกต. เสนอ โดยกำหนดให้วันอาทิตย์ที่ 8 ก.พ. 69 เป็นวันเลือกตั้งทั่วไป ภายหลังพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร
พ.ศ. 2568 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค. 68
  • ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติประจำทำเนียบขาว และเป็นที่ปรึกษาของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์สหรัฐฯ กล่าวว่า
หากได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เขาพร้อมรับฟังความคิดเห็นด้านนโยบายจากปธน.ทรัมป์ อย่างไรก็
ดี การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยยังต้องยึดหลักความเป็นอิสระของเฟด
  • ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ (ทังกัน) ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 15 ในไตรมาส

4/2568 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี จากระดับ 14 ในไตรมาส 3 โดยข้อมูลดังกล่าวทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น

(BOJ) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ