สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (15 พ.ย.) ซึ่งเป็นการปิดบวกติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรปยังคงเป็นแรงกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำ อย่างไรก็ตาม การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้สกัดแรงบวกในตลาดและส่งผลให้สัญญาทองคำปิดบวกเพียงเล็กน้อย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 3.8 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 1,782.2 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1784.0 - 1770.2 ดอลลาร์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 43.2 เซนต์ ปิดที่ 34.456 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 1.35 เซนต์ ปิดที่ 3.5015 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 2.75 ดอลลาร์ ปิดที่ 667.05 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 1.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,642.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดทองคำ COMEX ยังคงได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง หลังจากสถาบัน ZEW ของเยอรมนีเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนในเดือนพ.ย. ลดลงสู่ระดับ -55.2 จุด จากระดับ -48.3 จุดของเดือนต.ค. เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลวว่า วิกฤตหนี้สาธารณะจะทำให้เศรษฐกิจถอยร่นเข้าสู่ภาวะถดถอย
กระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรปยังคงเป็นปัจจัยผลักดันตลาดทองคำนิวยอร์ก แม้ว่าสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) รายงานว่า เศรษฐกิจของ 17 ชาติสมาชิกยูโรโซนขยายตัว 0.2% ในไตรมาส 3 เพราะได้แรงหนุนจากเศรษฐกิจเยอรมนีที่สามารถขยายตัวได้ 0.5% และเศรษฐกิจฝรั่งเศสที่ขยายตัว 0.4% ในไตรมาส 3 ก็ตาม
ไมค์ ดาลี ผู้เชี่ยวชาญด้านทองคำจากบริษัท PFGbest ในเมืองชิคาโกกล่าวว่า มีข่าวลือว่าอิตาลีจะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลงหลายขั้น จึงทำให้นักลงทุนเดินหน้าเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และเขาคาดว่าจะมีแรงซื้อส่งเข้าหนุนทองคำอย่างต่อเนื่องจนกว่านักลงทุนจะมีความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์ในยุโรปมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้สกัดแรงบวกในตลาดและส่งผลให้สัญญาทองคำปิดบวกเพียงเล็กน้อย โดยดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 0.57% เมื่อเทียบกับยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้