นายโฮเซ่ มานูเอล บาร์โรโซ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป เตือนว่าเศรษฐกิจ 17 ประเทศสมาชิกยูโรโซนอาจเข้าสู่ภาวะชะงักงัน
"นับตั้งแต่เราคาดการณ์เศรษฐกิจอย่างเต็มรูปแบบเมื่อเดือนพฤษภาคม สภาพเศรษฐกิจโลกก็ย่ำแย่ลงอย่างต่อเนื่อง บัดนี้เราคาดการณ์ว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจจะอยู่ในระดับต่ำ และอัตราว่างงานจะยังคงอยู่ที่ประมาณ 10% ไปอีก 2-3 ปีข้างหน้า" นายบาร์โรโซกล่าวที่การประชุมรัฐสภายุโรปที่เมืองสตราสบูร์ก ประเทศฝรั่งเศส
นอกจากนั้นเขายังกล่าวถึงมาตรการต่างๆที่ผู้นำอียูจะนำมาใช้ในการควบคุมวิกฤต ซึ่งรวมถึงมาตรการรัดเข็มขัดทางการคลัง การปฏิรูปโครงสร้าง และการปรับปรุงระบบริหารจัดการเศรษฐกิจ
ขณะเดียวกันนายบาร์โรโซยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการปรับแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจ ซึ่งการสร้างเสถียรภาพทางการคลังอย่างเดียวไม่เพียงพอ แต่ต้องอาศัยการขยายตัวของเศรษฐกิจด้วย
มาตรการรัดเข็มขัดทางการคลังอย่างเดียวไม่สามารถรับประกันได้ว่า กลุ่มประเทศอียูจะชำระหนี้ได้ ดังนั้นบรรดาผู้นำอียูจึงพยายามแก้ปัญหาด้วยการใช้มาตรการต่างๆอย่างต่อเนื่อง และหากปราศจากการขยายตัวของเศรษฐกิจ มาตรการรัดเข็มขัดอาจเป็นภาระที่หนักเกินไปสำหรับทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้
นอกจากนั้น นายบาร์โรโซยังย้ำด้วยว่า สกุลเงินยูโรจะไม่แยกออกจากอียู เพราะยูโรเป็นหัวใจของอียู ไม่ใช่ส่วนที่จะแยกออกไปได้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน