ธนาคารโลกคาดการณ์ในวันนี้ว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจมาเลเซียจะชะลอตัวลงในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้และชะลอตัวลงต่อเนื่องจนถึงปี 2555 เนื่องจากเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มซบเซา อันเป็นผลมาจากวิกฤตหนี้ยุโรปที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น
ธนาคารโลกระบุในรายงาน "แนวโน้มเศรษฐกิจมาเลเซีย" ฉบับที่ 5 ว่า เศรษฐกิจมาเลเซียจะขยายตัว 4.3% ในปี 2554 และขยายตัว 4.9% ในปี 2555
"อุปสงค์ภายในประเทศของมาเลเซียจะยังคงฟื้นตัว แต่ความอ่อนแอของเศรษฐกิจทั่วโลกอาจจะสร้างแรงกดดันให้กับค่าแรงในอุตสาหกรรมการผลิตและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายผู้บริโภค เราคาดว่าภาวะซบเซาของเศรษฐกิจโลกจะบดบังความแข็งแกร่งของอุปสงค์ภายในประเทศของมาเลเซีย" รายงานของธนาคารโลกระบุ
ธนาคารโลกคาดว่ายอดส่งออกของมาเลเซียจะชะลอตัวลง แต่ก็คาดว่าการอุปโภคบริโภคและการลงทุนของภาคเอกชนจะช่วยพยุงเศรษฐกิจให้ยังคงขยายตัวได้ตลอดปี 2555 ภายใต้แผนการปรับเปลี่ยนรูปแบบการเติบโตทางเศรษฐกิจและแผนพัฒนาเศรษฐกิจระยะ 5 ปี ซึ่งรัฐบาลมาเลเซียเริ่มนำมาใช้แล้ว
นอกจากนี้ ธนาคารโลกคาดว่า จีนจะมีส่วนสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของมาเลเซีย เนื่องจากจีนมีความต้องการนำเข้าสินค้าเพื่อผู้บริโภค ซึ่งจะช่วยหนุนราคาสินค้าโภคภัณฑ้ทางการเกษตรให้มีเสถียรภาพ โดยสินค้าโภคภัณฑ์คิดเป็นสัดส่วน 40% ของยอดการส่งออกทั้งหมดของมาเลเซีย
"จีนต้องการสินค้าโภคภัณฑ์ในปริมาณมากเพื่อใช้ในการพัฒนาประเทศ จึงมีความเป็นไปได้ว่าจีนจะช่วยให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์มีเสถียรภาพ และมาเลเซียเองก็ยังคงคาดหวังว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัวแข็งแกร่งในปีหน้า"
ขณะเดียวกัน ธนาคารโลกคาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปของมาเลเซียจะอยู่ที่ระดับ 3.2% ในปี 2554 และจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 2.7% ในปี 2555 สำนักข่าวซินหัวรายงาน