กระทรวงเศรษฐกิจเยอรมนีเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดสั่งซื้อใหม่ของโรงงานอุตสาหกรรมภายในประเทศ พุ่งขึ้น 5.2% ในเดือนต.ค. ซึ่งฟื้นตัวขึ้นจากเดือนก.ย.ที่หดตัวลง 4.6% เพราะได้แรงหนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งของประเทศยูโรโซนและประเทศอื่นๆทั่วโลก
ตัวเลขล่าสุดถือเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นแข็งแกร่งที่สุดในรอบ 19 เดือน และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1%
รายงานของกระทรวงเศรษฐกิจระบุว่า ยอดสั่งซื้อโดยรวมจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น 8.3% ยอดสั่งซื้อจากกลุ่มประเทศยูโรโซนพุ่งขึ้น 16.2% และยอดสั่งซื้อภายในประเทศ เพิ่มขึ้น 1.7%
ทั้งนี้ การเปิดเผยยอดสั่งซื้อของโรงงานอุตสาหกรรมที่ขยายตัวแข็งแกร่งในเดือนต.ค. มีขึ้นในขณะที่เยอรมนีกำลังเผชิญกับความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย เนื่องจากวิกฤตหนี้ยุโรปและการชะลอตัวได้ส่งผลให้ยอดส่งออกของเยอรมนีหดตัวลง นอกจากนี้ อันดับความน่าเชื่อถือของเยอรมนียังตกอยู่ในความเสี่ยงเช่นกัน หลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) เตือนว่าอาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของเยอรมนี ลง 1 ขั้น
ธนาคารกลางเยอรมนีได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจเยอรมนีในปี 2555 ลงมาอยู่ที่ระดับ 0.5 - 1% จากระดับ 1.8% ในการประเมินเมื่อเดือนมิ.ย. โดยระบุว่า เศรษฐกิจเยอรมนีอาจอ่อนแอลง หากวิกฤตหนี้ยุโรปทวีความรุนแรงมากขึ้น ขณะที่องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) ประเมินว่า จีดีพีเยอรมนีจะหดตัว 1.4% ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้
ส่วนในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมานั้น เศรษฐกิจเยอรมนี ขยายตัว 0.5% เพราะได้ปัจจัยหนุนจากการใช้จ่ายผู้บริโภคที่เพิ่มสูงขึ้น
ทั้งนี้ หลังจากเยอรมนีเปิดเผยยอดสั่งซื้อของโรงงานอุตสาหกรรมได้ไม่นาน สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ปรับตัวขึ้น 21 เซนต์ แตะที่ 101.20 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่นักลงทุนจับตาดูดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค.ของเยอรมนีในวันพรุ่งนี้ เวลา 18.00 น.