(เพิ่มเติม) ม.หอการค้าฯ เผยดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภค พ.ย.54 ที่ 61.0 จาก 62.8 ในต.ค.

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday December 8, 2011 15:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนพ.ย.54 โดยดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยโดยรวมอยู่ที่ 61.0 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางานทำ อยู่ที่ 62.5 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต อยู่ที่ 89.5

ทั้งนี้ ดัชนีทุกตัวปรับตัวลดลงจากเดือน ต.ค.54 โดยดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยโดยรวมในเดือน พ.ย. ต่ำสุดในรอบ 122 เดือนนับตั้งแต่ ก.ย.44 ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสการหางานทำเดือน พ.ย. ต่ำสุดในรอบ 119 เดือนนับตั้งแต่ ม.ค.45 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตเดือน พ.ย. ต่ำสุดในรอบ 28 เดือน นับตั้งแต่ ส.ค.52 และต่ำกว่า 100 เป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน

สำหรับปัจจัยลบในเดือน พ.ย.ได้แก่ ผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมในหลายพื้นที่ สร้างความเสียหายต่อนิคมอุตสาหกรรม ทรัพย์สินของประชาชน และสถานที่ราชการเป็นอย่างมาก, สภาพัฒน์ ปรับลดคาดการณ์ GDP ปีนี้ลงเหลือ 1.5% จากเดิมที่เคยคาดไว้ 3.5-4.0%

นอกจากนี้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ยังปรับลดคาดการณ์ GDP ปีนี้ลงด้วยเช่นกันเหลือ 1.7-2.0% จากเดิมที่คาดไว้ 2.7%, ความกังวลของผู้บริโภคในเรื่องค่าครองชีพและราคาสินค้า และความกังวลเรื่องความไม่แน่นอนในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก, ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้น

ส่วนปัจจัยบวกในเดือนนี้ ได้แก่ คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% มาอยู่ที่ 3.25%, การส่งออกในเดือน ต.ค.หดตัวลงเล็กน้อยเพียง 0.1% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า และค่าเงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อย

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า การปรับตัวลดลงของดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย.มีปัจจัยสำคัญจากปัญหาน้ำท่วม และเชื่อว่าดัชนีมาถึงจุดต่ำสุดแล้ว เพราะลดลงในอัตราที่ชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้า ดังนั้น ในเดือนธ.ค.ความเชื่อมั่นไม่น่าจะปรับลดลงไปกว่านี้ เพราะน้ำท่วมเริ่มคลี่คลายลงแล้ว

สำหรับการขยายตัวเศรษฐกิจปีหน้าต้องจับตาใน 5 ปัจจัย ได้แก่ 1.การใช้งบประมาณฟื้นฟูหลังน้ำลดจากรัฐบาลอย่างรวดเร็ว 2.การปล่อยกู้ของสถาบันการเงินกว่าแสนล้านบาท 3.การเริ่มจ่ายค่าสินไหมชดเชยประกันภัยภายในเดือนม.ค.55 เ4.ศรษฐกิจในยุโรปไม่ทรุดตัวอย่างรุนแรง และ 5.การเมืองภายในประเทศไม่รุนแรงบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวและนักลงทุนต่างชาติ

หากทั้ง 5 ปัจจัยเป็นไปตามแผน จะทำให้ GDP ของประเทศปี 55 เติบโตได้ระดับ 4-5% แต่หากไม่เป็นไปตามนี้ GDP ปีหน้าเหลือเติบโตแค่ 2-3% เท่านั้น ส่วนในปีนี้คาดว่า GDP จะเติบโตประมาณ 1.5-2%

"คาดว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคจะค่อยๆ ฟื้นตัวตั้งแต่ต้นปีหน้า และกลับสู่ภาวะปกติตั้งแต่ปลายเดือน มี.ค. จากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่คาดจะเดินทางเข้ามาไทยในเดือนธ.ค.ถึง 1.6 ล้านคน รวมถึงการมีเม็ดเงินจากภาครัฐและเอกชนในการฟื้นฟูน้ำท่วม 700,000 ล้านบาท" นายธนวรรธน์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ