กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.8% ในเดือนพฤศจิกายน 2554 และเป็นสถิติที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 4 เดือน หลังจากที่ทรงตัวในเดือนตุลาคม เนื่องจากอุปสงค์ด้านอากาศยานที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ยอดสั่งซื้ออุปกรณ์คงทน ซึ่งหมายถึงอุปกรณ์ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.8% ในเดือนพฤศจิกายนหลังจากที่ทรงตัวในเดือนตุลาคม ในขณะที่อุปสงค์ในสินค้าทุน ซึ่งรวมไปถึงยุทโธปกรณ์และอากาศยานปรับตัวลดลง 1.2% ในเดือนพฤศจิกายน และหดตัวมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม
การปรับตัวลดลงของอุปสงค์สินค้าทุนบ่งชี้ว่า ภาคการผลิตของสหรัฐอาจจะลังเลเรื่องการขยายการลงทุนมากขึ้น เนื่องมาจากปัญหาทางการเมืองในสหรัฐและวิกฤติหนี้สินในยุโรป
นอกจากนี้ รายงานของกระทรวงยังบ่งชี้ว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยกเว้นหมวดอุปกรณ์การขนส่ง เช่น เครื่องบินโดยสาร เพิ่มขึ้น 0.3% หลังจากที่ขยายตัวขึ้น 1.5% ในเดือนตุลาคม โดยบริษัทโบอิ้ง ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่สุดของสหรัฐ รายงานว่า ได้รับคำสั่งซื้อเครื่องบินจำนวน 96 ลำในเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 7 ลำจากเดือนก่อน และเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม
ยอดสั่งซื้อสินค้านอกหมวดยุทโธปกรณ์ที่ไม่นับรวมเครื่องบิน ซึ่งใช้ในการคำนวณตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ลดลง 1% หลังจากที่อ่อนตัวลง 0.8% ในเดือนก่อน