ม.หอการค้าไทยเผย 10 ธุรกิจดาวเด่น-ดาวร่วงปี 55 ชี้การแพทย์-ความงามมาแรง

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday December 27, 2011 13:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผย 10 ธุรกิจดาวเด่น-ดาวดับในปี 55 ชี้การแพทย์-ความงามมาแรงสุดเหตุคนใส่ใจห่วงใยสุขภาพ หันทำศัลยกรรมความงามมากขึ้น ส่วนโชห่วยดับสนิทเพราะสู้ยักษ์ใหญ่ไม่ได้

นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึง 10 อันดับธุรกิจเด่นปี 55 ว่า ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯ ได้จัดอันดับธุรกิจดาวเด่นในปี 55 จากการให้คะแนนใน 5 ด้าน คือ ด้านยอดขาย ต้นทุน ส่วนต่างของยอดขายต่อต้นทุน(กำไรสุทธิ) ความสามารถในการรับผลจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆ และความสอดคล้องกับกระแสนิยม รวม 50 คะแนน รวมถึงประเมินจากสถานการณ์เศรษฐกิจ 55 ปัจจัยสนับสนุน และปัจจัยบั่นทอนในการทำธุรกิจ ซึ่งพบว่า ธุรกิจดาวเด่น 10 อันดับ 12 ธุรกิจ ได้แก่ 1.ธุรกิจบริการทางการแพทย์ และความงาม 45.1 คะแนน 2.อุตสาหกรรมการผลิตน้ำตาล 44 คะแนน

3.ธุรกิจปูนซีเมนต์และผลิตภัณฑ์คอนกรีต 43.9 คะแนน 4.สถานีบริการ/จำหน่ายน้ำมัน ก๊าซเอ็นจีวี และแอลพีจี 43.8 คะแนน 5.สถาบันการเงิน 43.5 คะแนน 6.เทคโนโลยีสื่อสาร 43.3 คะแนน 7.ธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิต 43.2 คะแนน ส่วนอันดับ 8 มีคะแนนเท่ากันที่ 42.7 คะแนนใน 2 ธุรกิจคือ ธุรกิจวัสดุอุตสาหกรรมและเครื่องจักร และธุรกิจก่อสร้างและวัสดุก่อสร้าง 9.ธุรกิจพลังงานและพลังงานทดแทน ขณะที่อันดับ 10 มี 2 ธุรกิจที่คะแนนเท่ากันที่ 42.4 คะแนนคือ ธุรกิจเคมีภัณฑ์ และธุรกิจอาหาร

ด้านนายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯ กล่าวถึง 10 ธุรกิจดาวร่วงปี 55 หรือธุรกิจที่มีโอกาสทำธุรกิจน้อย และผู้ประกอบการจะต้องเร่งปรับปรุงศักยภาพ ได้แก่ 1.ร้านค้าดั้งเดิม(โชห่วย) 15.9 คะแนน 2.ผักและผลไม้อบแห้ง 16.7 คะแนน 3.หัตถกรรม(จักสาน งานไม้) 17.1 คะแนน 4.เครื่องหนัง(งานไม้เน้นฝีมือ งานเครื่องหนังทั่วไป) 17.2 คะแนน 5.เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย(ไม่เน้นงานฝีมือ) 18.4 คะแนน 6. สิ่งทอผ้าผืน(งานไม้เน้นฝีมือ ตัดเย็บทั่วไป) 18.7 คะแนน 7.เหล็กและการผลิตเหล็ก 19.9 คะแนน 8.อุตสาหกรรมฟอกย้อม 20.7 คะแนน 9.ธุรกิจประมง 24.1 คะแนน และ 10.อสังหาริมทรัพย์(บ้านแนวราบ) 24.9 คะแนน

"ธุรกิจดาวร่วงปี 55 พิจารณาจากผลกระทบที่ทำให้ต้นทุนสูงขึ้น และทำให้ผู้ประกอบการแข่งขันไม่ได้ โดยเฉพาะต้นทุนด้านค่าแรงที่จะปรับขึ้นในปีหน้า ผลกระทบจากภาวะน้ำท่วม และสินค้าที่มีรูปแบบล้าสมัย ไม่ตอบสนองความต้องการผู้บริโภค เช่น เครื่องหนัง เครื่องแต่งกาย งานหัตถกรรม" นายธนวรรธน์ กล่าว

สำหรับธุรกิจเด่นหลังน้ำลด ได้แก่ ธุรกิจทำความสะอาด ธุรกิจเคลื่อนย้ายสิ่งของ วัสดุก่อสร้าง โรงรับจำนำ และธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ ส่วนธุรกิจเด่นในช่วงครึ่งหลังปี 55 ได้แก่ อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ ร้านทอง สื่อสิ่งพิมพ์และการบันเทิง ยางพาราและผลิตภัณฑ์ยาง โดยอิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์นั้น แม้ไตรมาสแรกปี 55 จะมีความต้องการมากขึ้น แต่ผู้ผลิตไม่สามารถเดินเครื่องผลิตได้ตามความต้องการ เพราะยังฟื้นฟูโรงงาน และเครื่องจักรได้เต็มที่ คาดจะกลับมาเดินเครื่องเป็นปกติในครึ่งหลังของปี และทำให้ธุรกิจฟื้นตัวได้ครึ่งหลังของปีเช่นกัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ