สำนักงานสถิติแห่งชาติฟิลิปปินส์รายงานในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของฟิลิปปินส์ขยายตัวเพียง 3.7% ในปี 2554 ต่ำกว่าปีก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 7.6% อันเป็นผลจากยอดส่งออกและการใช้จ่ายของภาครัฐที่ลดลง อีกทั้งยังเป็นช่วงที่เกิดวิกฤตหนี้ยูโรโซนและเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัว
ส่วนจีดีพีไตรมาส 4 ปี 2554 ของฟิลิปปินส์ ขยายตัวเพียง 3.7% ในไตรมาสที่ 4 ของปีที่แล้ว ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 6.1% โดยภาคบริการมีส่วนช่วยบรรเทาผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐและยุโรป
รายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติระบุว่า ยอดใช้จ่ายของภาครัฐลดลง ในช่วงที่รัฐบาลฟิลิปปินส์ภายใต้การนำของประธานาธิบดีเบนิกโน อะควิโน เดินหน้าปราบคอร์รัปชั่น และยกเลิกสัญญาต่างๆ ที่อาจเข้าข่ายดังกล่าว ซึ่งลงนามโดยรัฐบาลชุดก่อน
การรายงานตัวเลขจีดีพีของสำนักงานสถิติแห่งชาติฟิลิปปินส์มีความสอดคล้องกับที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า เศรษฐกิจฟิลิปปินส์จะขยายตัว 4.2% ในปีนี้