สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ระบุว่า ภาวะทางเศรษฐกิจของไทยได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วเมื่อเดือน พ.ย.54 ซึ่งเกิดสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ และขณะนี้เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวทั้งจากการบริโภคและการลงทุน ดังนั้นยังคงคาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจของไทย(GDP) ในปีนี้จะขยายตัวที่ระดับ 5%
นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการ สศค. กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในเดือนธ.ค.54 มีสัญญาณฟื้นตัวดีขึ้นภายหลังผ่านพ้นปัญหาอุทกภัย โดยเฉพาะการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนที่กลับมาขยายตัวได้อีกครั้ง ขณะที่การส่งออกปรับตัวดีขึ้น ซึ่งเดือนธ.ค.ถือว่าได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดรุนแรงจากเดือน พ.ย. และเริ่มฟื้นตัวได้แล้ว
ทั้งนี้ประเมินว่าไตรมาส 4/54 เศรษฐกิจจะยังหดตัวถึง 5% และทำให้ทั้งปี 54 คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวได้ 1.1% ขณะที่ทั้งปี 55 ยังคงคาดว่า GDP จะเติบโตได้ 5% โดยไตรมาส 1/55 คาดว่าจะขยายตัวได้ราว 2% และเศรษฐกิจจะขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะเติบโตที่อัตราสูงสุด 7% ในไตรมาส 4/55 โดยแรงผลักดันเศรษฐกิจมาจากนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจที่สำคัญของรัฐบาล เช่น การปล่อยสินเชื่อ การลงทุนของภาครัฐ
นายสมชัย มองว่า ในปี 55 ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ยังต้องติดตาม คือ ปัญหาเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะเศรษฐกิจยุโรปที่คาดว่าสถานการณ์ยังคงเลวร้าย เบื้องต้นคาดว่าปีนี้เศรษฐกิจยุโรปจะติดลบ 0.8% แต่หากยังไม่มีความคืบหน้าในการแก้ปัญหาหนี้สาธารณะของประเทศในยุโรป โดยเฉพาะกรีซก็จะยิ่งมีผลกระทบมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเสี่ยงจากการเมืองต่างประเทศ ที่ปีนี้จะมีการเลือกผู้นำใหม่หลายประเทศ รวมทั้งการเกิดความขัดแย้งของหลายประเทศ เช่น อิหร่าน และสหรัฐฯ ส่วนปัญหาภัยธรรมชาติในปีนี้มีการคาดกันว่าในภูมิภาคเอเชียจะมีสถานการณ์ฝนตกมาก จากผลของลานิญญ่า
ขณะที่ปัญหาการเมืองในประเทศนั้น มองว่ายังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงเช่นกัน ซึ่งหากสถานการณ์การเมืองนิ่งจะเป็นผลดีต่อการเติบโตของเศรษฐกิจได้มากกว่า