สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (1 ก.พ.) เพราะได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้ปัจจัยบวกจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์ก และข้อมูลภคการผลิตของจีนและสหรัฐที่ขยายตัวแข็งแกร่งเกินคาด
สัญญาทองคำที่ตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 9.1 ดอลลาร์ หรือ 0.5% ปิดที่ 1,749.5 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 54.5 เซนต์ ปิดที่ 33.807 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 35.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,623.20 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ดีดตัวขึ้น 10.35 ดอลลาร์ ปิดที่ 696.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาทองคำได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์ก หลังจากสำนักงานจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตเดือนม.ค.ขยายตัวที่ระดับ 54.1 จุด จากเดือนธ.ค.ที่ระดับ 53.1 จุด ซึ่งดัชนีที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 จุดบ่งชี้ว่าภาคการผลิตของสหรัฐยังคงมีการขยายตัว
นอกจากนี้ สหพันธ์พลาธิการและการจัดซื้อของจีน (CFLP) เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนม.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับ 50.5 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งบ่งชี้ว่าจีนซึ่งมีระบบเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกนั้น สามารถต้านทานผลกระทบที่เกิดจากการชะลอตัวของอุตสาหกรรมส่งออก อันเนื่องมาจากวิกฤตหนี้ยุโรป
ขณะเดียวกัน สัญญาทองคำได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าจะทำให้สัญญาสินค้าโภคภัณฑ์ซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์มีราคาสูงขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ โดยดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินที่เป็นคู่ค้าหลักของสหรัฐ ร่วงลง 0.6% เมื่อวานนี้