นักเศรษฐศาสตร์หลายคนคาดการณ์ว่า ตลาดแรงงานสหรัฐในช่วงไตรมาสแรกของปี 2555 มีแนวโน้มหดตัวลง อันเนื่องมาจากผู้ประกอบการชะลอการว่าจ้างแรงใหม่ แม้ว่าตัวเลขการจ้างงานเมื่อเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้นถึง 200,000 ตำแหน่งซึ่งได้แรงหนุนจากช่วงวันหยุดยาวปีใหม่ก็ตาม โดยบรรดานักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ยอดจ้างงานในเดือนม.ค. ไว้ที่มากกว่า 100,000 ตำแหน่งเท่านั้น ขณะที่อัตราว่างงานมีโอกาสถีบตัวสูงขึ้นไปแตะที่ 8.6%
นายเฮดี้ เชียร์โฮลซ์ นักเศรษฐศาสตร์จากสถาบันนโยบายเศรษฐกิจในกรุงวอชิงตัน ดีซี กล่าวว่า หลังจากสิ้นสุดช่วงวันหยุดยาวไปแล้ว พนักงานส่งเอกสารและไปรษณีย์มากถึง 40,000 คนต้องตกงานในเดือนม.ค. นอกจากนี้ ภาคการก่อสร้างยังชะลอตัวลงอันเนื่องจากมาจากสภาพอากาศที่ย่ำแย่ และโครงการก่อสร้างทั่วประเทศที่มีจำนวนลดลง
"ผมคิดว่า เราน่าจะเห็นตัวเลขการจ้างงานราว 100,000-120,000 ตำแหน่ง ส่วนธุรกิจบริการด้านสุขภาพคาดว่าจะเติบโตควบคู่ไปกับภาคการค้าและการผลิต ซึ่งปัจจัยนี้จะช่วยชดเชยตัวเลขจ้างงานที่ลดลงในหน่วยงานของรัฐบาลและรัฐบาลท้องถิ่น" เชียร์โฮลซ์กล่าวขณะที่นายไรอัน สวีต นักเศรษฐศาสตร์จากมูดี้ส์ อะนาลิติกส์ กล่าวว่า ช่วงนี้เป็นช่วง "การเติบโตที่ต่ำสุด" ของการจ้างงาน อันเป็น "สัญญาณของความเชื่อมั่นเพียงเล็กน้อยในตลาดแรงงาน" ซึ่งถือเป็นประเด็นที่น่าจับตามอง
"เป็นเรื่องธรรมดาที่เราอยากจะเห็นการจ้างงานที่เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว" นายสวีตกล่าว ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของนายเชียร์โฮลซ์
นายสวีตยังคงระดับคาดการณ์การจ้างงานในเดือนม.ค. ของเขาไว้ โดยคาดว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรจะอยู่ที่ 100,000 ตำแหน่ง
"ตลาดแรงงานกำลังเติบโต แต่เป็นไปอย่างเชื่องช้า" นายสวีตกล่าว พร้อมระบุว่า การจ้างงานของโรงงานในสหรัฐตั้งแต่เดือนธ.ค. เข้าสู่ภาวะชะลอตัวในเดือนม.ค. ดังนั้นอัตราจ้างงานที่ลดลงจึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้