สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (6 ก.พ.) หลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ เนื่องจากความยืดเยื้อในการเจรจาเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซทำให้นักลงทุนแห่ถือครองสกุลเงินดอลลาร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำที่ตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 15.4 ดอลลาร์ หรือ 0.9% ปิดที่ 1,724.9 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1727.0 - 1724.9 ดอลลาร์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 0.1 เซนต์ ปิดที่ 33.750 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 3.7 เซนต์ ปิดที่ 3.8645 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 2.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,629.80 ดอลลาร์/ออนซ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ดิ่งลง 2.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 705.95 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาทองคำร่วงลงตามตลาดหุ้นและตลาดน้ำมันหลังจากสำนักนายกรัฐมนตรีกรีซเปิดเผยว่า การเจรจาเรื่องมาตรการรัดเข็มขัดและการปฏิรูปการคลังระหว่างนายลูคัส ปาปาเดมอส นายกรัฐมนตรี กับบรรดาหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลกรีซ จะเลื่อนออกไปเป็นวันอังคาร จากเดิมที่มีกำหนดหารือกันในช่วงเที่ยงวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้เกิดความวิตกกังวลว่ากรีซอาจจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้
ไมค์ ดาลี ผู้เชี่ยวชาญด้านทองคำจากบริษัท PFGbest ในเมืองชิคาโก กล่าวว่า "สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากมีข่าวลือว่านายกรัฐมนตรีปาปาเดมอสของกรีซจะลาออก และจากความกังวลที่ว่ากรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้ที่ครบกำหนดจ่ายในเดือนมี.ค.นี้"
นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นหลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนม.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือนที่ 243,000 ตำแหน่ง และอัตราว่างงานปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 5 สู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปีที่ 8.3% จากระดับ 8.5% ของเดือนธ.ค.