สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (10 ก.พ.) หลังจากที่รัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนชะลอการอนุมัติแผนให้ความช่วยเหลือทางการเงินครั้งใหม่แก่กรีซ ซึ่งสถานการณ์ความไม่แน่นอนของกรีซส่งผลให้เงินยูโรอ่อนค่าลง ขณะเดียวกันนักลงทุนก็แห่ซื้อเงินดอลลาร์เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง
เงินยูโรอ่อนค่า 0.84% เมื่อเทียบเงินดอลลาร์ ที่ระดับ 1.3170 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.3281 ดอลลาร์/ยูโร ส่วนเงินปอนด์ก็อ่อนค่า 0.48% เมื่อเทียบเงินดอลลาร์ ที่ระดับ 1.5740 ดอลลาร์/ปอนด์ จาก 1.5816 ดอลลาร์/ปอนด์
เงินดอลลาร์แข็งค่า 0.67% เทียบเงินฟรังค์สวิส ที่ระดับ 0.9175 ฟรังค์/ดอลลาร์ จาก 0.9114 ฟรังค์/ดอลลาร์ แต่อ่อนค่า 0.12% เมื่อเทียบเงินเยน ที่ 77.600 เยน/ดอลลาร์ จาก 77.690 เยน/ดอลลาร์
เงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่า 1.17% เมื่อเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐ ที่ 1.0660 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 1.0786 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์อ่อนค่า 0.80% เมื่อเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 0.8268 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จาก 0.8335 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รัฐมนตรีคลังยูโรโซนกล่าวว่า กรีซต้องลดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีก 430 ล้านดอลลาร์ จึงจะได้รับความช่วยเหลือทางการเงินรอบใหม่ และหากไม่ได้รับเงินช่วยเหลือก้อนนี้ กรีซจะผิดนัดชำระหนี้
ขณะเดียวกันนายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ นายกรัฐมนตรีลักเซมเบิร์กและประธานยูโรกรุ๊ปเปิดเผยว่า กรีซต้องนำแผนการปรับลดงบประมาณฉบับล่าสุดมูลค่า 325 ล้านยูโรมาบังคับใช้เป็นกฎหมาย ซึ่งหากกรีซไม่ทำตามข้อเสนอก็จะส่งผลให้ไม่ได้รับเงินช่วยเหลือก้อนใหม่ และจะบีบให้กรีซผิดนัดชำระหนี้จำนวน 1.44 หมื่นล้านยูโรในการไถ่ถอนพันธบัตรในวันที่ 20 มีนาคมนี้