สภาทองคำโลก (WGC) เปิดเผยว่า ความต้องการทองคำทั่วโลกในปี 2554 ปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับ 4,067.1 ตัน คิดเป็นมูลค่า 2.055 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่อุปสงค์ทองโลกมีมูลค่าสูงเกินกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีปริมาณการซื้อขายสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2540
WGC ระบุว่า แรงขับเคลื่อนหลักที่ทำให้ความต้องการทองคำปรับตัวสูงขึ้นนั้น มาจากการที่ภาคเอกชนเข้าลงทุนในทองคำด้วยปริมาณสูงถึง 1,640.7 ตันต่อปี เพิ่มขึ้น 5% คิดเป็นมูลค่า 8.29 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยภาคเอกชนของอินเดีย จีน และยุโรป มีความต้องการทองคำสูงสุดในปี 2554
จีนและอินเดียยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญของตลาดทองโดย โดยมีสัดส่วนที่ 55% และ 49% ของความต้องการอัญมณีทั่วโลกตามลำดับ อินเดียเป็นตลาดใหญ่ที่สุดด้วยปริมาณความต้องการ 933.4 ตันในปี 2554 ส่วนความต้องการทองคำของจีนอยู่ที่ 769.8 ตัน ปรับเพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบรายปี อันเป็นผลจากความต้องการอัญมณีและการลงทุนที่เพิ่มขึ้น
ขณะที่ความต้องการทองคำในยุโรปทะยานขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 ไปสู่ระดับ 374.8 ตัน โดยมีเยอรมนีและสวิตเซอร์แลนด์เป็นตัวขับเคลื่อนหลัก เนื่องจากยูโรโซนยังคงเผชิญวิกฤต จึงทำให้นักลงทุนในภูมิภาคแห่งนี้เข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย สำนักข่าวซินหัวรายงาน