ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดแนวโน้มเงินบาทสัปดาห์ถัดไป (27 ก.พ.-2 มี.ค. 55) อาจเคลื่อนไหวในกรอบ 30.20-30.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยคงต้องจับตาการตอบรับของตลาดต่อผลการประชุม G-20 การพิจารณาแผนช่วยเหลือกรีซรอบสองของรัฐสภาเยอรมนี และโครงการประมูลสภาพคล่องระยะยาวรอบสองของธนาคารกลางยุโรป (LTRO 2)
ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญในระหว่างสัปดาห์ ได้แก่ ดัชนี ISM ภาคการผลิต ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ. ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย รายจ่ายด้านการก่อสร้าง รายได้-รายจ่ายส่วนบุคคล และดัชนี Core PCE Price Index เดือนม.ค. รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจหรือ Beige Book ของธนาคารกลางสหรัฐฯ จีดีพีประจำไตรมาส 4/2554 (เบื้องต้น) ดัชนีราคาบ้านเดือนธ.ค. 2554 รายงานโดยสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ นักลงทุนยังอาจให้ความสนใจกับข้อมูลเศรษฐกิจ การค้าระหว่างประเทศเดือนม.ค และอัตราเงินเฟ้อเดือนก.พ. ของไทยในระหว่างสัปดาห์อีกด้วย
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 5 เดือนเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ฯ โดยได้รับแรงหนุนอย่างต่อเนื่องตลอดสัปดาห์จากการไหลเข้าของเงินทุนต่างชาติสู่ตลาดการเงินไทย นอกจากนี้ การแข็งค่าของเงินบาทยังสอดคล้องกับการคาดการณ์ว่า มีแรงขายเงินดอลลาร์ฯ จากผู้ส่งออก และแรงซื้อเงินบาทในส่วนที่อาจจะเชื่อมโยงกับการไหลเข้าของเงินประกัยภัยเพื่อชดเชยความเสียหายจากน้ำท่วมเมื่อปลายปี 2554 ขณะที่ ปัจจัยหนุนสินทรัพย์เสี่ยง อาทิ การปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์จีน และข้อสรุปของมาตรการช่วยเหลือกรีซรอบสอง ก็เป็นปัจจัยบวกต่อเงินบาทด้วยเช่นกัน
ในวันศุกร์ (24 ก.พ.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 30.35 เทียบกับระดับ 30.75 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (17 ก.พ.)