รัฐบาลยันฮอนด้าไม่ย้ายฐานผลิตหนีไทย แจงรง.ที่อินโดฯ เป็นการขยายกำลังผลิตบริโอ้

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday March 21, 2012 14:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า กระแสข่าวเรื่องบริษัทรถยนต์ฮอนด้าจะย้ายฐานการผลิตจากไทยไปอินโดนีเซียนั้นไม่เป็นความจริง เพราะหลังจากที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางไปประเทศญี่ปุ่นเพื่อชี้แจงและสร้างความเชื่อมั่นต่อนักธุรกิจญี่ปุ่นถึงแผนการบริหารจัดการน้ำ และการป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมแล้ว ซึ่งหลายบริษัทญี่ปุ่นที่ลงทุนในประเทศไทย โดยเฉพาะฮอนด้ายืนยันว่าจะยังคงฐานการผลิตในประเทศไทย อีกทั้งมีแผนระยะยาวจะเพิ่มเงินลงทุนในไทยมากขึ้นด้วย

ส่วนกรณีที่ฮอนด้าจะไปลงทุนเพิ่มเติมในประเทศอินโดนีเซียหรือประเทศอื่นๆ นั้น เป็นการไปลงทุนผลิตรถยนต์อีโคคาร์ ซึ่งเป็นการผลิตรถยนต์คนละประเภทกับที่ผลิตอยู่ในประเทศไทย

ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ รมว.อุตสาหกรรม ชี้แจงว่า การไปลงทุนของฮอนด้าในประเทศอินโดนีเซียนั้น เป็นเพียงการขยายกำลังการผลิตรถยนต์ขนาดเล็ก ในรุ่นฮอนด้า บริโอ้ เนื่องจากตลาดรถยนต์ในอินโดนีเซียที่มีขนาดเล็กกว่าประเทศไทย 4 เท่า มีโอกาสเติบโตอีกมาก และแผนดังกล่าวก็มีการศึกษามาเป็นปีแล้ว

ทั้งนี้ นักลงทุนญี่ปุ่นโดยเฉพาะค่ายรถยนต์ฮอนด้าไม่ได้ย้ายฐานการผลิตออกจากไทยไปอินโดนีเซียตามที่มีข่าว โดยฮอนด้ายังลงทุนวงเงิน 12,000 ล้านบาท เพื่อฟื้นฟูโรงงานผลิตรถยนต์ในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ จ.พระนครศรีอยุธยา อีกด้วย

ปัจจุบันฮอนด้ามีกำลังการผลิตรถในประเทศไทย ราว 240,000 คันต่อปี ขณะที่กำลังการผลิตรถยนต์ในอินโดนีเซียอยู่ที่ 60,000 คันต่อปี

ด้านนางอัญชลี ชาลีจันทร์ ผู้จัดการส่วนงานองค์กรสัมพันธ์บริษัท เอเชี่ยน ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้ตอบรับที่จะเป็นประธานเปิดสายการผลิตรถยนต์ของฮอนด้า ที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 31 มี.ค.55 หลังจาก ต้องหยุดการผลิตจากปัญหาอุทกภัยใน จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา

พร้อมยืนยันว่า ฮอนด้าจะไม่มีการนำชิ้นส่วนเก่าของรถยนต์ที่จมน้ำกลับมาจำหน่ายให้กับลูกค้าอย่างเด็ดขาด โดยรถทั้ง 1,055 คันได้ถูกทำลายไปหมดแล้ว ส่วนของการลงทุนในประเทศอินโดนีเซียเป็นเพียงการขยายกำลังการผลิตรถยนต์ฮอนด้าบริโอ้ ที่จะเริ่มก่อสร้างโรงงานในเดือนเม.ย.นี้ และจะเริ่มการผลิตได้ในปลายปี 56


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ