เอกชนไทย-จีนเซ็น MOU-ความร่วมมือคาดเกิดการลงทุนไม่ต่ำกว่า 6.7 หมื่นลบ.

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday April 18, 2012 16:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า การเจรจาความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนของประเทศไทยและจีนในโอกาสที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ พบว่าประสบความสำเร็จด้วยดี โดยมีการลงนามความร่วมมือ(MOU)ร่วมกันระหว่างผู้ประกอบการไทยกับจีนเพื่อร่วมลงทุน และความร่วมมือในด้านต่างๆร่วมกันอีก 8 ฉบับ เช่น บริษัทสามมิตรกรีนพาวเวอร์ จำกัด กลุ่มโรงพยาบาลธนบุรี กลุ่มมิตรผล และทีซีไอ ทีวี ภายใต้การสนับสนุนของ สมาคมการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างประเทศของจีน และสมาคมวัฒนธรรมเศรษฐกิจ ไทย จีน ซึ่งคาดว่าจะก่อให้เกิดความร่วมมือด้านการลงทุนร่วมกันจากการเซ็น MOU ครั้งนี้ ไม่ต่ำกว่า 67,000 ล้านบาท

ในวันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ พบหารือกับประธานกรรมการบริหารของบริษัทชั้นนำของจีนเป็นรายบุคคล เพื่อให้ความมั่นใจและรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการลงทุนในประเทศไทย โดยมีผู้ประกอบการไทยและจีนให้ความสนใจเข้าร่วมงานกว่า 800 คน โดยหน่วยงานภาครัฐของไทยได้ร่วมให้ข้อมูลที่น่าสนใจแก่ผู้ประกอบการจีน เช่น สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้บรรยายพิเศษถึงนโยบายของรัฐในการให้ความสำคัญกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของไทย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความร่วมมือระหว่างไทยและจีนที่จะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต

โอกาสนี้ รัฐบาลชี้แจงถึงการให้ความสำคัญกับการลงทุนจากต่างประเทศของไทย โดยรัฐบาลได้เน้นย้ำถึงนโยบายการปรับปรุงระบบสาธารณูปโภคเพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ รวมถึงแผนบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบด้วยงบประมาณสูงถึง 3.5 แสนล้านบาท เพื่อป้องกันเขตเศรษฐกิจสำคัญของไทย นอกจากนี้ ได้ยืนยันความชัดเจนของนโยบายส่งเสริมการลงทุนของไทย กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ต้องการให้มาลงทุน ซึ่งได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมเครื่องจักรกล อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป และอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน นอกจากนี้รัฐบาลยังได้อธิบายถึงแนวทางการส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวของทั้ง 2 ประเทศ

ทั้งนี้ การพบปะหารือกับภาคเอกชนรายใหญ่ของจีน แบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ดังนี้ 1. กลุ่มบริษัทที่แสดงความสนใจและพร้อมที่จะมาลงทุนในประเทศไทย เช่น บริษัท Advance Technology and Materials (กิจการผลิตเครื่องจักร) บริษัท Great Wall Motor (กิจการผลิตรถยนต์) บริษัท Shanghai Automotive Industry Corporation (กิจการผลิตรถยนต์) และบริษัท Greenland Holding Group (ดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์) ได้ยืนยันถึงความเชื่อมั่นนประเทศไทย และพร้อมที่จะเข้ามาลงทุนในโครงการต่างๆ โดยคาดว่ามูลค่าการลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนในไทยจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 65,000 ล้านบาท

2. กลุ่มบริษัทที่มีความเชื่อมั่นต่อบรรยากาศการลงทุนของไทย และมีความเป็นไปได้ที่จะเข้ามาลงทุนในอนาคตอันใกล้ เช่น บริษัท Scope Scientific Development (กิจการผลิตผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า) บริษัท China Railway Group และบริษัท China Tree Gorges (เป็นรัฐวิสาหกิจด้านการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน) บริษัท Poly Group (เป็นรัฐวิสาหกิจด้านการผลิตพลังงานทดแทน) รวมถึงบริษัท China Investment Corporation และ EXIM Bank China ที่พร้อมเป็นผู้สนับสนุนด้านการเงินให้กับโครงการที่จะไปลงทุนในประเทศไทย

3. กลุ่มบริษัทท่องเที่ยว จำนวน 5 บริษัท ได้แก่ บริษัท China International Travel Service, บริษัท China CYTS Outbound Travel Services บริษัท Beijing Ctrip International Travel Service บริษัท Beijing Jiedajiaqi (เจียต้าเจียชี่) International Travel Service และบริษัท China of Beijing China Travel Service South Asian View ได้หารือความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว และแนวทางการส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวของทั้ง 2 ประเทศ เพื่อให้เกิดความสะดวก เพิ่มมากขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ