สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันเมื่อคืนนี้ (27 เม.ย.) เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้ช่วยกระตุ้นแรงซื้อสัญญาทองคำ หลังจากที่สหรัฐเปิดเผยตัวเลขจีดีพีน่าผิดหวัง นอกจากนี้ ราคาทองยังได้แรงหนุนจากความวิตกกังวลระลอกใหม่เกี่ยวกับเศรษฐกิจยูโรโซน
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปรับตัวขึ้น 4.3 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 1,664.8 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 14 เซนต์ ปิดที่ 31.347 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 5.15 เซนต์ ปิดที่ 3.8250 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 5.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,575.50 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 8.85 ดอลลาร์ ปิดที่ 681.50 ดอลลาร์/ออนซ์
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการเงินยุโรปที่ถูกจุดปะทุขึ้นมาอีกครั้ง ถือเป็นปัจจัยหลักที่ผลักดันราคาทองคำ เนื่องจากทองคำถูกทองว่าเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยในยามที่เศรษฐกิจประสบภาวะข้าวยากหมากแพง
สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของสเปน ลง 2 ขั้น สู่ระดับ BBB+ จากระดับ A และยังได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะสั้นของสเปน ลงสู่ระดับ A-2 จากระดับ A-1 พร้อมให้แนวโน้มความน่าเชื่อถือ "เป็นลบ" โดยระบุว่า ปัญหาด้านการคลังของสเปนมีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอ
นอกจากนี้ ทองคำยังได้รับปัจจัยหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานตัวเลขประมาณการครั้งแรกของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 1/2555 ซึ่งขยายตัวที่ระดับ 2.2% ต่อปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัว 2.5% และน้อยกว่าไตรมาส 4/2554 ที่ขยายตัว 3.0%
ทั้งนี้ การชะลอตัวของอัตราขยายตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐจุดประกายความหวังว่า เฟดอาจผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม หลังจากที่นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ ระบุว่า เฟดพร้อมที่จะใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ หากเศรษฐกิจของประเทศอ่อนแอถึงระดับหนึ่ง ซึ่งกระแสคาดการณ์ดังกล่าวทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงและกระตุ้นให้นักลงทุนแห่ซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ