ค่าเงินยูโรปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 7 ติดต่อกันเมื่อเทียบกับสกุลดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนต่างกำลังจับตาสถานการณ์การเมืองของกรีซ โดยพรรคการเมืองฝ่ายซ้ายของกรีซเดินหน้าหาพันธมิตรเพื่อจัดตั้งรัฐบาลผสม หลังจากที่พรรคนิวเดโมเครซี ซึ่งคว้าชัยในการเลือกตั้งประสบความล้มเหลวในการจัดตั้งรัฐบาล ส่งผลให้เกิดภาวะชะงักงันในรัฐสภา ขณะที่ตลาดวิตกกังวลว่ากรีซอาจจะถอนตัวจากยูโรโซน
เงินยูโรปรับตัวลดลง 0.1% แตะที่ 1.3035 ดอลลาร์ ณ เวลา 07.31 น. ตามเวลาในนิวยอร์ก หลังร่วงแตะระดับ 1.2955 ดอลลาร์เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค. นอกจากนี้ ค่าเงินยูโรยังลดลง 0.3% มาอยู่ที่ 104.01 เยน หลังร่วงลงแตะ 103.24 เยนเมื่อวานนี้ ซี่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ. ในขณะที่เยนแข็งค่า 0.2% มาอยู่ที่ 79.80 ดอลลาร์
ผลการเลือกตั้งในกรีซและความไม่ชัดเจนของนโยบายการเงินในอนาคตทำให้เกิดความกังวลระลอกใหม่เกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตการเงินยุโรป โดยในการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานั้น พรรคนิวเดโมเครซี ได้ไป 19% ของคะแนนโหวต และ 108 ที่นั่งในรัฐสภา ส่วนพรรค Syriza ได้ไป 17% หรือเท่ากับ 52 ที่นั่ง และพรรค Pasok ซึ่งเป็นอดีตพรรครัฐบาล ได้คะแนนตามมาเป็นอันดับ 3 ที่ 13% หรือ 41 ที่นั่ง
ทางด้านนายอันโตนิส ซามาราส หัวหน้าพรรคนิวเดโมเครซี ซึ่งเป็นพรรคที่ครองที่นั่งในสภามากที่สุดจากการผลการเลือกตั้งล่าสุดนั้น เปิดเผยว่า ทางพรรคประสบความล้มเหลวในการจัดตั้งรัฐบาลผสม บ่งชี้ว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดการเลือกตั้งครั้งใหม่ในเดือนหน้า
ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นภายหลังการเจรจาร่วมระหว่างพรรคต่างๆ เพื่อจัดตั้งรัฐบาลไม่ประสบผลสำรวจ ซึ่งก่อให้เกิดความวิตกกังวลว่าความผันผวนทางการเมืองอาจทำให้วิกฤติหนี้ยุโรปปะทุขึ้นอีกครั้ง และจะกระทบอย่างหนักต่อประเทศที่ประสบปัญหาหนี้ อาทิ สเปน และ อิตาลี