ยอดขาดดุลการค้าสหรัฐลดลง 4.9% ในเดือนเม.ย. หลังนำเข้าอ่อนแอกว่าส่งออก

ข่าวต่างประเทศ Friday June 8, 2012 21:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขาดดุลการค้าและบริการของสหรัฐในเดือนเม.ย. ลดลง 4.9% จากเดือนก่อนหน้า สู่ระดับ 5.006 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 2 เดือน เนื่องจากการนำเข้าที่ร่วงลงอย่างมาก โดยเฉพาะสินค้าไฮเทค อาทิ คอมพิวเตอร์ และ เซมิคอนดักเตอร์ ได้ช่วยชดเชยการส่งออกที่ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน

ยอดนำเข้าสินค้าและบริการของสหรัฐในเดือนเม.ย.ร่วงลง 1.7% จากเดือนมี.ค.มาอยู่ที่ 2.3297 แสนล้านดอลลาร์ โดยราคานำเข้าน้ำมันดิบเฉลี่ยต่อบาร์เรลอยู่ที่ 109.94 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากระดับ 107.95 ดอลลาร์ในเดือนมี.ค. และนับเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนส.ค.2551

ขณะที่ยอดส่งออก ซึ่งทำสถิติสูงสุดในเดือนก่อนหน้านี้ ลดลง 0.8% แตะ 1.8291 แสนล้านดอลลาร์ เนื่องจากยอดขายสินค้าทุกประเภทไปยังต่างประเทศ ตั้งแต่เครื่องบินพาณิชย์ไปจนถึงเครื่องจักรอุตสาหกรรมนั้น ปรับตัวลดลง

การลดลงของตัวเลขส่งออกถือเป็นปัญหา เพราะแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอกำลังส่งผลกระทบต่อความต้องการสินค้าที่ผลิตในสหรัฐ โดยยอดส่งออกไปยังยุโรป จีน และบราซิลปรับตัวลงทั้งหมด

ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐจะลดลงแตะ 4.95 หมื่นล้านดอลลาร์ จาก 5.18 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนมี.ค

สำหรับยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐกับจีน ซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่และมีความอ่อนไหวทางการเมืองนั้น ทะยานขึ้น 13.3% สู่ระดับ 2.455 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเกือบครึ่งหนึ่งของยอดขาดดุลการค้าโดยรวมของสหรัฐ เนื่องจากการส่งออกไปยังจีนร่วงลงถึง 14.0% สู่ระดับ 8.46 พันล้านดอลลาร์ ส่วนยอดนำเข้าของสหรัฐจากจีนขยายตัว 4.8% แตะ 3.301 หมื่นล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐกับญี่ปุ่นหดตัวลง 11.6% แตะ 6.32 พันล้านดอลลาร์ โดยการนำเข้าจากญี่ปุ่นร่วงลง 8.9% สู่ระดับ 1.209 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากการแข็งค่าของเงินเยน ขณะที่การส่งออกไปยังญี่ปุ่นลดลง 5.8% แตะ 5.77 พันล้านดอลลาร์ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ