กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นดัชนีวัดเงินเฟ้อหลัก ปรับตัวลดลง 0.3% ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดในรอบ 3 เดือน เนื่องจากภาคครัวเรือนของสหรัฐลดการซื้อน้ำมันเบนซิน
อย่างไรก็ตาม ดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ค. ซึ่งสอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้
การปรับตัวลงของดัชนี CPI มีความสอดคล้องกับข้อมูลที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นดัชนีวัดเงินเฟ้อในส่วนของกลุ่มผู้ผลิต ปรับตัวลดลง 1.0% ในเดือนพ.ค.เมื่อเทียบกับเดือนก่อน ซึ่งร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2552 หรือในรอบเกือบ 3 ปี และลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาด โดยสาเหตุหลักที่ทำให้ดัชนี PPI ร่วงลงอย่างมากคือ ราคาพลังงานที่ลดลงถึง 4.3% หรือมากที่สุดในรอบกว่า 3 ปี
ดัชนี CPI และ PPI ที่ปรับตัวลดลงถือเป็นการส่งสัญญาณว่าแรงกดดันเงินเฟ้อในสหรัฐเริ่มบรรเทาลง จนอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สามารถลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้ หากเศรษฐกิจขยายตัวช้าลง