การปิโตรเลียมสหรัฐ (API) เปิดเผยในรายงานฉบับหนึ่งว่า ความต้องการปิโตรเลียมโดยรวมของสหรัฐเพิ่มสูงขึ้นในเดือนพ.ค. ซึ่งนับเป็นการเพิ่มขึ้นในรายเดือนครั้งแรกของปีนี้เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
API ระบุในรายงานทางสถิติรายเดือนว่า การส่งมอบปิโตรเลียมทั้งหมด ซึ่งเป็นมาตรดวัดอุปสงค์ ได้เพิ่มขึ้น 0.5% แตะ 18.457 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนพ.ค. เมื่อเที่ยบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังจากที่ความต้องการปิโตรเลียมมีแนวโน้มขาลงในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้
การส่งมอบน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 0.4% ที่ 8.815 ล้านบาร์เรล/วันจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ตัวเลขยังต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วอยู่ 0.6%
“แม้มีการปรับตัวในเชิงบวก แต่อุปสงค์ด้านเชื้อเพลิงก็ยังไม่แข็งแกร่งนัก" นายจอห์น เฟลมี หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ API กล่าว “การขยายตัวที่อ่อนแอในสหรัฐ อัตราว่างงานที่ระดับสูง และเศรษฐกิจโลกที่ย่ำแย่ต่างก็เป็นปัจจัยถ่วง"
ส่วนปริมาณปิโตรเลียอยู่ในระดับสูง โดยอุปทานปิโตรเลียมภายในประเทศทั้งหมดเพิ่มขึ้น 11.9% ในเดือนพ.ค. สู่ระดับเฉลี่ย 9.868 ล้านบาร์เรล/วัน
การผลิตน้ำมันดิบภายในประเทศเพิ่มขึ้น 8.5% ในเดือนพ.ค. แตะระดับเฉลี่ยที่ 6.126 ล้านบาร์เรล/วัน และการผลิตนำมันเบนซินแตะ 9.092 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งสูงกว่าระดับอ้างอิงที่ 9 ล้านบาร์เรล/วันเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน
นอกจากนี้ การเพิ่มขึ้นของการผลิตภายในประเทศยังบ่งชี้ถึงการพึ่งพาการนำเข้าน้อยลง โดยการนำเข้าน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันกลั่นลดลง 10.4% สู่ระดับเฉลี่ย 10.461 ล้านบาร์เรล/วัน