ธนาคารกลางอินโดนีเซียเปิดเผยว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของอินโดนีเซียลดลงมาอยู่ที่ 1.065 แสนล้านดอลลาร์ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน จาก 1.1153 แสนล้านดอลลาร์ ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม
อย่างไรก็ดี ธนาคารไม่ได้อธิบายถึงสาเหตุของการปรับตัวลดลง โดยตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ธนาคารกลางได้รุกเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรติเงินตราเพื่อรักษาเสถียรภาพของค่าเงินรูเปียห์ที่เคลื่อนไหวผันผวน หลังนักลงทุนต่างประเทศนำเงินออกนอกประเทศอันเป็นผลพวงมาจากความเสี่ยงจากวิกฤตหนี้สินในยุโรป
ธนาคารระบุว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของอินโดนีเซียมีเพียงพอสำหรับชำระหนี้และการนำเข้าสินค้าในอีก 6 เดือนข้างหน้า โดยก่อนหน้านี้ ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของอินโดนีเซียแตะที่ระดับ 1.164 แสนล้านดอลลาร์ ณ สิ้นเดือนเมษายน
ทั้งนี้ ธนาคารกลางมีเป้าหมายที่จะผลักดันให้ผู้ส่งออกนำผลตอนแทนจากการส่งออกมาฝากไว้กับธนาคารภายในประเทศ
จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติที่เปิดเผยเมื่อวันที่ 2 ก.ค.นั้น แสดงให้เห็นว่า ถึงแม้การส่งออกของอินโดนีเซียจะลดลง 8.55% ในเดือนพฤษภาคม มาอยู่ที่ 1.672 หมื่นล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบเป็นรายปี แต่ยอดขาดดุลการค้าของประเทศก็หดตัวลงมาอยู่ที่ 485.9 ล้านดอลลาร์เช่นเดียวกัน จากระดับ 764.7 ล้านดอลลาร์ในเดือนเมษายน
ผลการสำรวจของเอชเอสบีซีระบุว่า ผู้ส่งออกและนำเข้าของอินโดนีเซียยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกเกี่ยวกับแนวโน้มการค้าระหว่างประเทศของอินโดนีเซียในช่วงอีก 6 เดือนข้างหน้า ถึงแม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากวิกฤตในยูโรโซนก็ตาม
อินโดนีเซียได้รับการปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือโดยมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส เป็นครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมา ส่งผลให้นักลงทุนเข้ามาลงในประเทศเพิ่มขึ้น สำนักข่าวซินหัวรายงาน