กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 80,000 ตำแหน่ง ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 90,000-100,000 ตำแหน่งโดยประมาณ ขณะที่อัตราว่างงานทรงตัวที่ระดับ 8.2% ซึ่งสอดคล้องกับคาดการณ์ส่วนใหญ่
ตัวเลขจ้างงานเดือนมิ.ย.นับเป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ว่าการฟื้นตัวของตลาดแรงงานสหรัฐกำลังอ่อนแรง ขณะที่การขยายตัวทางเศรษฐกิจชะลอตัว โดยถึงแม้ว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 21 ติดต่อกันแล้ว แต่อัตราขยายตัวยังคงต่ำกว่า 100,000 ตำแหน่งเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน
โดยตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้น 77,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นตัวเลขที่ได้รับการปรับทบทวนขึ้นจากระดับ 69,000 ตำแหน่งในรายงานเบื้องต้น ขณะที่ตัวเลขจ้างงานเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้นเพียง 68,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นการปรับทบทวนลงจาก 77,000 ตำแหน่งในรายงานก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว ตลาดแรงงานสหรัฐได้ส่งสัญญาณฟื้นตัวขึ้น แต่ความเคลื่อนไหวที่เป็นบวกดังกล่าวเริ่มส่อแววหยุดชะงักในระยะหลังมานี้ เมื่อจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์กลับมาดีดตัวขึ้นต่อเนื่องในช่วงเดือนเม.ย.จนถึงพ.ค.ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันการจ้างงานใหม่ยังส่งสัญญาณชะลอตัวด้วย
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้เปิดเผยคาดการณ์แนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการจ้างงานที่มืดมนมากขึ้น โดยเฟดคาดการณ์เมื่อเดือนที่แล้วว่า อัตราว่างงานจะอยู่ที่ราว 8.0-8.2% ภายในปลายปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากที่คาดการณ์ไว้ในเดือนเม.ย.ที่ระดับ 7.8-8.0% นอกจากนี้ ยังได้ปรับลดการคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจลงมาอยู่ในช่วง 1.9 - 2.4% ในปีนี้
กระทรวงแรงงานระบุในรายงานวันนี้ว่า การจ้างงานในภาคเอกชน ซึ่งไม่รวมหน่วยงานรัฐ เพิ่มขึ้น 84,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 28
การจ้างงานในภาคการผลิตสินค้าเพิ่มขึ้น 13,000 ตำแหน่ง โดยธุรกิจการผลิตจ้างงานเพิ่มขึ้น 11,000 ส่วนธุรกิจก่อสร้างเพิ่มการจ้างงาน 2,000 ตำแหน่ง
ขณะที่การจ้างงานในภาคบริการ ซึ่งถือเป็นภาคส่วนที่ขับเคลื่อนการสร้างงานในสหรัฐ เพิ่มขึ้น 71,000 ตำแหน่ง โดยในภาคบริการนั้น ธุรกิจค้าปลีกจ้างงานลดลง 5,400 ตำแหน่ง
ส่วนการจ้างงานภาครัฐลดลง 4,000 ตำแหน่ง