ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบาย (FOMC) ประจำวันที่ 19-20 มิ.ย. โดยระบุถึงภาวะชะลอตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการขยายตัวด้านการจ้างงานในช่วงที่ผ่านมา แต่จำเป็นต้องมีความชัดเจนมากขึ้นในการสนับสนุนการซื้อพันธบัตรรอบใหม่
“ข้อมูลในการประชุมวันที่ 19-20 มิ.ย.บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงกว่าเมื่อต้นปี การปรับตัวดีขึ้นของภาวะตลาดแรงงานเป็นไปอย่างเชื่องช้าในช่วงหลายดือนที่ผ่านมา และอัตราว่างงานยังคงสูง" รายงานการประชุมของ FOMC ระบุ
หลังการประชุมดังกล่าว เฟดประกาศว่าจะขยายระยะเวลาของมาตรการ Operation Twist ออกไปจนถึงสิ้นปีนี้ โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะทำให้อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรระยะยาวปรับตัวลง และเฟดได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวสำหรับปี 2555 ลงสู่ช่วง 1.9-2.4% เมื่อเทียบกับการคาดการณ์ในเดือนเม.ย.ที่ 2.4-2.9%
“การปรับทบทวนดังกล่าวสะท้อนถึงข้อมูลที่บ่งชี้ถึงอัตราการจ้างงานในภาคเอกชนที่ชะลอลง ยอดค้าปลีกที่ย่ำแย่มากขึ้น แนวโน้มรายได้ส่วนบุคคลที่ต่ำลง การควบคุมการใช้จ่ายของรัฐบาลมากขึ้น และการส่งออกที่อ่อนแอกว่าที่เจ้าหน้าที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้"
ในการหารือเกี่ยวกับสถานการณ์และแนวโน้มเศรษฐกิจ โดยทั่วไปเจ้าหน้าที่ตีความข้อมูลดังกล่าวว่าเป็นการบ่งชี้ว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะยังคงอยู่ในระดับปานกลางในช่วงหลายไตรมาสข้างหน้า และหลังจากนั้นจะปรับตัวขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปอย่างมาก
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่เฟดยังคาดว่านโยบายการคลังจะยังคงถ่วงการขยายตัวทางเศรษฐกิจในช่วงหลายไตรมาสข้างหน้า
รายงานแสดงให้เห็นว่าสมาชิกคณะกรรมการ FOMC เกือบทั้งหมด ยกเว้นเพียงรายเดียว เห็นพ้องกันว่าจะเป็นการเหมาะสมที่จะยังคงดำเนินมาตรการ Operation Twist ต่อไปจนถึงสิ้นปีนี้
“มีสมาชิกเพียงไม่กี่รายที่แสดงความเห็นว่าจำเป็นต้องมีการกระตุ้นด้านนโยบายต่อไปเพื่อหนุนการขยายตัวด้านการจ้างงาน และเพื่อสร้างความมั่นใจว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ภายในเป้าหมายของ FOMC" รายงานระบุ
อย่างไรก็ตาม สมาชิกอื่นๆหลายรายตั้งข้อสังเกตว่าการดำเนินการด้านนโยบายเพิ่มเติมอาจมีความเหมาะสม หากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจชะลอลง หากความเสี่ยงช่วงขาลงต่อการคาดการณ์ดังกล่าวมีความชัดเจนเพียงพอ หรือหากเงินเฟ้อมีแนวโน้มจะปรับตัวต่ำกว่าเป้าหมายระยะยาวของ FOMC อย่างต่อเนื่อง